พระนครศรีอยุธยา-ผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่บัญชาการดับเพลิงไหม้โกดังสารเคมีรอบที่ 4 ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกาศปิดโรงพยาบาลภาชี เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข อธิบดีกรมโรงงานลาออก
เวลา 18.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนสายอุทัย-ภาชี หมู่ 2 อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นโกดังร้าง มีคนลักลอบนำสารเคมีมาเก็บ จนท.ยึดไว้เป็นของกลางในคดี 4 พันตัน จุดเกิดเหตุเป็นโกดังที่ 3 4 และ 5 เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง กลุ่ม ควันดำพวยพุ่ง สู่ท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็น เป็นวงกว้าง นายนพดล พลซื่อ นายอำเภอภาชี นายสเกน จันทร์ผดุงสุข นายกเทศมนตรีเทศบาลภาชี หัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานรถน้ำกว่า 20 คัน ร่วมกันวางแผนในการเข้าดับเพลิงเนื่องจากด้านในโกดังเป็นที่เก็บสารเคมี ซึ่งอยู่ระหว่างรุกราน โดยเวลา 18.30 น. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมนายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่บัญชาการและวางแผนในการดับไฟที่ลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง โดยมีระดมโฟมดับเพลิงกว่า 5,800 ลิตร เข้าสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง เบื้องต้นทางเทศบาลภาชีเร่งอพยพชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบ หมู่ 3 หมู่ 4 ที่อยู่ในระยะ 3 กิโลเมตร ไปที่วัดโคกม่วง จำนวน 17 ราย และได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่โรงพยาบาลภาชี ไปยังโรงพยาบาลในอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 31 ราย 
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นโกดังที่ 3 – 5 ซึ่งไม่ใช่โกดัง ที่เกิดเพลิงไหม้ก่อนหน้านี้ ซึ่งตามแผนการสอบสวน คือโรงที่ 5 เป็นพวกปลอกสายไฟ น้ำมันเครื่อง กรดซัลฟิวริก ส่วนสาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้สั่งการในเรื่องการดับเพลิงก่อน โดยประสานหน่วยงานข้างเคียงรถดับเพลิงที่อยู่ในพื้นที่ทั้งหมด 
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เสนอของบประมาณในการเคลื่อนย้ายสารเคมีของกลางทั้งหมดไปยังกระทรวงแล้ว และได้รับการสนับสนุนงบประมาณมาแล้ว กำลังวางแผนเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่แต่มาเกิดเหตุซ้ำก่อน และจะได้ประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ มาตรวจสอบสภาพอากาศโดยรอบต่อไป ส่วนกรณีที่ต้องเองขอลาออกจากตำแหน่งอธิบดี ไม่ได้รับแรงกดดันจากใคร เพียงแต่ทางกระทรวงมีนโยบายที่จะเปลี่ยนตัวอธิบดี ประกอบกับถึงเวลาที่จะต้องปรับเปลี่ยน จึงยื่นลาออกเมื่อวันที่ 29 เมษายน และรอผลการอนุมัติ 
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีประกาศจากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้สารเคมี ภายในโกดัง หมู่ 6 ต.ภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเพลิงลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง บริเวณโกดัง ที่ 3 และ 4 ซึ่งเก็บสารเคมี โดยกลุ่มควันมีทิศทางลอยไปถึงโรงพยาบาลภาชี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 600 เมตร ส่งผลทำให้อาจเกิดผลกระทบทางสุขภาพจากการเผาไหม้ของสารเคมี ต่อประชาชนบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลภาชี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้ทำการเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีเกิดเหตุอัคคีภัย ณ อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มภารกิจตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) กลุ่มภารกิจยุทธศาสตร์ (Strategic Planning) กลุ่มภารกิจปฏิบัติการ (Operation) และกลุ่มภารกิจความปลอดภัย (Safety) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป โดยทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนายณรงค์ ถวิสวิสาร นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รักษาราชการแทน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประกาศมอบหมายให้ นายเศกสรรค์ ชวนะดีเลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุทัย ปฏิบัติหน้าที่นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) คนที่ ๒ ทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มภารกิจปฏิบัติการ (Operation) ดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลภาชี ให้โรงพยาบาลทุกแห่งจัดเตรียมรถ Ambulance พร้อมปฏิบัติการ สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ออกจากโรงพยาบาลภาชี ไปยังโรงพยาบาลอุทัย และโรงพยาบาลท่าเรือ หรือโรงพยาบาลสามารถรองรับได้ ให้รถพยาบาลพร้อมพยาบาล โรงพยาบาลท่าเรือ โรงพยาบาลอุทัย โรงพยาบาลวังน้อย โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) โรงพยาบาลภาชี และโรงพยาบาลบางปะหัน ร่วมปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในของโรงพยาบาลภาชี พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ ให้กับประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วยไปรับบริการที่โรงพยาบาลสนามวัดโคกม่วง หากมีอาการหนักให้ไปรับบริการได้ที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ช่น โรงพยาบาลท่าเรือ โรงพยาบาลอุทัย เป็นต้น นอกจากนี้ให้สนับสนุนอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทันที
