พระนครศรีอยุธยา-“นิวัฒน์ รุ่งสาคร” พ่อเมืองประชุมทุกภาคส่วนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใกล้ชิด เร่งสร้างความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ป้องกันโบราณสถาน ขณะที่ “ซ้อสมทรง “นายกอบจ.เลาะริมแม่น้ำดูทุกจุด ประสานท้องถิ่นช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อนทันที
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดหนึ่งที่เกิดภาวะน้ำท่วมซ้ำซาก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อย เจ้าพระยา ป่าสักและลพบุรี ซึ่งไหลมารวมกัน ทำให้นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการรายงานสถานการณ์การระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ประสานไปยังอำเภอและท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำให้มีการเฝ้าระวังและขนข้าวของขึ้นที่สูง แม้ว่าหลายอำเภอจะเป็นภาวะน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ทางเดินเป็นประจำทุกปี เช่น ตำบลบ้านแพน บ้านกระทุ่ม หัวเวียง อ.เสนา ตำบลท่าดินแดง ตาลาน อ.ผักไห่ หรือตำบลบ้านคลัง มหาพราหมณ์ สะพานไทย อ.บางบาล ที่ติดต่อ ป่าโมก อ่างทอง .
โดยในช่วงเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2567 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ ชลประทาน นายอำเภอบางปะอิน ได้เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการอุทกภัยที่เขื่อนป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ โดยมีนายโยชิฮิโระ ทาคาดะ ผู้บริหารและคณะฯ บริษัท โอลิค (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงพื้นที่รับฟังการบริหารจัดการอุทกภัยในปี 2567 นี้ .
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบดูระบบเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จะสามารถดำเนินการสูบน้ำออกได้ทันท่วงที เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไม่ได้รับผลกระทบหรือได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและลดผลกระทบจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมที่ปัจจุบันส่งผลกระทบไปแล้วหลายจังหวัด
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปยังอำเภอเสนา เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ตำบลรางจระเข้ อำเภอเสนา และบริเวณประตูระบายน้ำกุฏี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ อำเภอผักไห่ พร้อมด้วยนางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวันชัย ปังพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ครั้งนี้
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจสอบความมั่นคงและแข็งแรงของประตูระบายน้ำ สร้างความเชื่อมั่นให้ภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรม ในนโยบายการป้องกันอุทกภัยในปี 2567 โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ รวมถึงการวางแผนรับมือน้ำหลากล่วงหน้า และเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมโดยเร็ว โดยจากสถานการณ์น้ำในปัจจุบันทางภาคเหนือที่มีปริมาณมาก ในขณะนี้ จะมีการแบ่งน้ำออกด้านซ้าย ด้านขวา ก่อนจะเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาและระบายน้ำออกมาท้ายเขื่อน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน นอกคันกั้นน้ำมีน้ำล้นตลิ่ง ซึ่ง ณ ปัจจุบันระบายน้ำอยู่ที่ 750 ลบ.ม./วินาที ซึ่งยังไม่ส่งผละกระทบเป็นวงกว้าง และได้สั่งกำชับให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนอย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย โดยทุกการปล่อยน้ำเพิ่ม 100 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น 10 – 20 เซนติเมตรในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป ภาพรวมในขณะนี้ความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน เครื่องสูบน้ำ ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน
ด้านนางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำที่หน้าโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ต่ำกว่าตลิ่งเพียง 1.10 เมตรเท่านั้น สำนักงาน ศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ได้ติดตั้งยกแนวพนังกั้นน้ำบังเกอร์แบบน็อคดาวน์ขนาด กว้าง 120 เซนติเมตร สูง 190 เซ็นติเมตร จำนวน 138 แผ่น ความยาวเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 165 เมตร เสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงกรุผ้าใบป้องกันน้ำ เพือไว้เป็นแนวป้องกันน้ำล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม โบราณสถานสำคัญแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจและความไม่ประมาทถึงแม้ว่าระดับน้ำยังอยู่ห่างตลิ่งก็ตาม.สำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ยืนยันจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามถูกน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 แน่นอน นอกจากนี้สำนักงานศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยายังได้เตรียมกระสอบทรายไว้จำนวนนับพันถุงไว้รองรับหากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถขนย้ายป้องกันน้ำท่วมได้ทันที
ขณะที่นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เดินทางไปในพื้นที่ริมแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอบางบาล อำเภอเสนา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำที่ล้นตลิ่งในหลายจุด และได้มอบข้าวกล่องน้ำดื่มให้กับประชาชนบางส่วนระหว่างการเดินทางไปสำรวจ พบว่ามีประชาชนบางส่วนขึ้นมาอยู่ริมถนน เนื่องจากเข้าออกบ้านไม่สะดวก อย่างไรก็ตามนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯยังได้ประสานกับท้องถิ่นเช่น อบต. และเทศบาล ในการสนับสนุนความช่วยเหลือหากมีการร้องขอจากท้องถิ่นทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: