นายไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร อายุ 63 ปี อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ที่เคยวิ่งจากใต้สุดแดนสยาม อ.เบตง จ.ยะลา ไปสุดแดนสยามที่ จ.เชียงราย เพื่อหาทุนช่วยค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน 24 จังหวัด เมื่อปี 2529 ได้เงินถึง 2 ล้านกว่าบาท โดยพบว่า อ.ไชยวัฒน์ กำลังซ้อมวิ่ง และวอล์มร่างกายอยู่ในสนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา
นายไชยวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการนำเสนอเรื่องราวของตน ทีมงานของตูน ได้โทรศัพท์มาติดต่อเพื่อให้ตนได้ไปร่วมแสดงความยินดีในการวิ่งถึงเส้นชัยในช่วงปลายๆปี ซึ่งคิดว่าตูนน่าจะถึง จ.เชียงราย ตนได้ตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะไม่ไปรอต้อนรับ แต่อยากที่จะวิ่งเข้าสู่เส้นชัยปลายทางพร้อมกับตูน โดยตนมีความตั้งใจที่จะไปรอคอยตูนอยู่ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย จากนั้นจะร่วมวิ่งกับตูนไปในระยะทางสุดท้ายประมาณ 30 ก.ม. เพื่อสู่ แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย
นายไชยวัฒน์ ได้นำภาพถ่ายกับคณะครูและลูกศิษย์สมัยที่ไปฝึกสอนที่ ร.ร.วัดพระรูป อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งยังไม่เคยเผยแพร่มาให้ดู โดยบอกว่ารูปนี้เป็นแรงบันดาลใจทำให้นึกถึงเด็กๆครั้งที่ไปฝึกสอนที่นั่น แล้วเจอเรื่องราวของเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนอาหารกลางวัน จนตัดสินใจวิ่งหาทุนอาหารกลางวัน และก่อตั้งเป็นมูลนิธิไชยวัฒน์ ในเวลาต่อมา ซึ่งการเริ่มวิ่งในครั้งนั้น นับเป็นการวิ่งที่ลำบากในการประชาสัมพันธ์ เนื่องจากไม่มีระบบสื่อสารทันสมัย ต้องอาศัยหน่วยงานรัฐ วิทยุแจ้งไปเป็นทอดๆตลอดเส้นทาง และอาศัยให้หน่วยงานด้านการศึกษารวมบรวมรับบริจาคเงินมามอบให้ จากนั้นก็จะมอบให้กับหน่วยงานเหล่านั้นกลับไปตลอดเส้นทางที่วิ่งผ่าน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอท่าฉาง พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย
- เครื่องกั้นรถไฟคลองแขวงกลั่นพังบ่อย ล่าสุดลงปิดขวางถนนนานข้ามคืน
- สุราษฎร์ ฯ อ่วม ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.เร่งช่วยเหลือประกาศภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากตูน ตนได้ทำการซ้อมวิ่งและเดินให้ได้วันละ 15-20 ก.ม. โดยออกกำลังในช่วงเช้า ซึ่งการวิ่งครั้งนี้เชื่อว่าตูน สามารถทำได้ แต่สิ่งที่ห่วงคือไม่อยากให้แฟนคลับซึ่งเชื่อว่าทุกคนรักตูน ไม่อยากให้ห้อมล้อมมากไป จนตูนบาดเจ็บมากขึ้นในระยะหลังๆ เพื่อการวิ่งแล้วมีคนห้อมล้อมอาจจะเกิดอันตราย คนเข้าไปเซลฟี่ก็จะเหยียบเท้าตูนได้ ก็เป็นห่วง แต่เชื่อว่าตูนคงไปถึงตามกำหนดเวลา ซึ่งตนจะไปรอคอยตามที่กำหนด
วันเดียวกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการรณรงค์เพื่อรับบริจาคเงินไปร่วมโครงการก้าวคนละก้าว โดยมีทั้งตำรวจและนักเรียน เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ไปรับบริจาคทั่วเมืองและนำเงินที่ได้มาไปเข้าบัญชีก่อนจะไปมอบให้ตูนบริเวณเส้นทางผ่านต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: