พระนครศรีอยุธยา-พ่อเมืองรับบทพระยาน้อยชมตลาดหัวรอ ท่ามกลางความดีใจของพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยเชื้อสายจีน เตรียมหาที่จอดรถให้มากขึ้น พร้อมหารือพาณิชย์ผลักดันตลาดต้องชม
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 22 พค ที่ตลาดหัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายเรวัต ประสงค์ รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายคมสัน เจริญอาจ ปลัดจังหวัดฯ และนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปเยี่ยมชมสภาพเศรษฐกิจร้านค้าในตลาดหัวรอ โดยมีนายประสาน ประสานวงศ์ และตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยเชื้อสายจีนให้การต้อนรับ และนำชมร้านค้าต่างๆในตลาดหัวรอ
บรรยากาศการชมตลาดของนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นไปด้วยความคึกคัก ผู้ว่าราชการจังหวัดฯได้แวะตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดคู่กับตลาดมายาวนานกว่า 70 ปี ร้านในตลาดส่วนใหญ่เป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ผ้าม้วน เครื่องแบบ เครื่องสังฆภัณท์ และของใช้ สภาพของร้านค้าส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ที่มีการปรับปรุงใหม่ แต่ยังคงเป็นห้องแถวติดกันแบบโบราณ มีร้านค้ารวมกว่า 200 ร้าน ส่วนใหญ่เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯแวะเยี่ยมร้านไหน ก็จะมีการขอถ่ายภาพ และร้องขอให้ทางจังหวัดได้ส่งเสริมตลาดหัวรอ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ ที่สำคัญส่วนใหญ่แทบทุกร้าน ร้องขอให้มีการจัดสถานที่จอดรถบริเวณถนนอู่ทองที่ผ่านตลาด เนื่องจากไม่มีสถานที่จอดรถ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ประชาชนเบื่อหน่ายไม่อยากมาตลาดหัวรอ เนื่องจากไม่มีที่จอดรถ ซึ่งนายสุจินต์ รับทราบความเดือดร้อนและความต้องการของเจ้าของร้านค้าส่วนใหญ่ และรับที่จะไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ตำรวจจราจร เพื่อให้มีที่จอดรถมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดฯยังได้เยี่ยมชมตลาดสดของหัวรอ ซึ่งดูแลโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยพบว่ามีความสะอาดและเป็นระเบียบมาก
นายสุจินต์ เปิดเผยว่าการมาเยี่ยมชมตลาดหัวรอแห่งนี้ เพื่อต้องการที่จะหาแนวทางในการส่งเสริมให้ตลาดหัวรอเป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกทั้งยังต้องการที่จะส่งเสริมเป็นตลาดต้องชม ซึ่งจะต้องหารือกับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ ในการดูว่าสามารถเป็นตลาดต้องชมได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งจากการเยี่ยมชม ทำให้เห็นว่าตลาดหัวรอเป็นตลาดเก่าแก่ที่มีความแข็งแรง ไม่แพ้ตลาดอื่น เพียงแต่เราจะหาอะไรมาดึงดูดให้ประชาชนเข้ามาเที่ยวชมมากขึ้น คงต้องไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
