ที่จ.ชลบุรี สาวเข้าห้องแชทหาคู่ หลอกหนุ่มซื้อรถกระบะ 4 ประตู หลังจากนั้นเชิดรถหายไป โร่แจ้งตำรวจ 5 ราย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ สภ.เสม็ด พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ บุญอ่อน สารวัตรเวร สภ.เสม็ด รับแจ้งจากนายสุบรรณ มีโคทะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/17 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรีว่า ตนเองเข้าไปในเว็บไซต์หาคู่ และได้ติดต่อกับหญิงสาวคนหนึ่งคือ น.ส.บี (นามสมมุติ) หลังจากนั้นได้ติดต่อกันทางไลน์ โดย น.ส.บี อ้างว่าต้องการหาแฟน และพร้อมที่จะมาอยู่กินด้วยกัน และได้กำชับว่าจะต้องเป็นคนโสดและไม่มีแฟน หลังจากได้ติดต่อกันระยะหนึ่งได้อ้างว่า ไม่มีรถขับไปทำงาน แต่ไม่สามารถซื้อรถได้เพราะติดแบล็คลิสต์ และต้องการยืมชื่อไปซื้อรถ โดยจะวางเงินดาวน์เอง พร้อมทั้งผ่อนส่ง
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
- ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงผลปฏิบัติการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” ยึดยาบ้ากว่า 400,000 เม็ด
- ฝ่ายปกครอง อ.ปลาปากสนธิกำลังตร .บุกรวบหนุ่ม 20 ขาใหญ่ จำหน่ายยาบ้า โดดหลังบ้าน คว้ามีดพร้าเปิดทาง หลบหนีไปไม่รอด
- ปราจีนบุรี สลดหนุ่ม 45 ถูกช้างป่าอ่างฤาไนทำร้ายเสียชีวิต
จึงได้ตัดสินใจช่วยเหลือโดยไปซื้อรถกระบะ ฟอร์ด 4 ประตู ในราคา 1.2 ล้านบาทเศษ โดย น.ส.บีจะเป็นคนออกดาวน์ 170,000 บาท หลังจากนั้นจะผ่อนส่งเดือนละ 12,000 บาท ระยะเวลา 7 ปี เมื่อออกไปรถไปแล้ว ปรากฏว่าเมื่อครบค่างวดจะต้องผ่อนชำระ ไม่ยอมผ่อนชำระแต่อย่างใด ทำให้ไฟแนนซ์มาตามทวงหนี้ จึงได้พยายามติดต่อกับ น.ส.บี รับปากว่าจะไปส่งให้ แต่ก็ไม่ยอมส่งค่างวดอีก สอบถามเรื่องรถก็ไม่สามารถยืนยันว่ารถอยู่ที่ไหน จึงได้นำชื่อจริง น.ส.บี ไปตรวจสอบในอินเตอร์เน็ตพันทิป (Pantip.Com) ปรากฏว่าเป็นแก๊งหลอกลวง และทำในลักษณะเช่นนี้หลายครั้ง ทำให้มีผู้ชายตกเป็นเหยื่อไปแล้วหลายราย จึงได้มาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.บีดังกล่าว
ต่อมานายวิทวัส เธียรเศวตตระกูล อายุ 32 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.แพร่ ก็เดินทางมาแจ้งความในลักษณะเดียวกันอีก 1 คน สำหรับคดีนี้ที่ น.ส.บี หลอกลวงให้ออกรถกระบะรวมทั้งสิ้น 5 ราย ที่ สภ.เสม็ด 3 ราย และ สภ.ดอนหัวฬ่อ 2 ราย
พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ กล่าวว่า คดีดังกล่าว น.ส.บี ได้มาติดต่อกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การปฏิเสธไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด และให้ผู้เสียหายทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวน และ น.ส.บี อีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคม หากน.ส.บีไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะพิจารณาสำนวนอีกครั้งหนึ่งว่า มีความผิดฐานทางแพ่ง หรือทางอาญา หากผิดทางอาญาจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ ก็จะออกหมายเรียกต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: