ที่จ.ชลบุรี กระบะซิ่งชนคนตาย 2 ศพแล้วหนี เวรกรรมมีจริงประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ถอดทะเบียนหน้า-หลังหลบหนี ตำรวจยืนยันสีรถเหมือนกัน แต่ต้องรอพิสูจน์หลักฐาน ญาติวอนให้มอบตัว อยากรู้ทำไมทิ้งศพไว้กลางถนน
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม ที่ สภ.เสม็ด น.ส.จินตนา จันทร์หนู อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/92 หมู่ 4 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุวิท สุดเส้นผม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เสม็ด เพื่อติดตามคดีกรณีที่ น.ส.อุไรวรรณ จันทร์หนู อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/56 ซอย 10 ถนนบางแสนสาย 3 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี น้องสาว พร้อมด้วยเพื่อนบ้าน น.ส.สุนทรี สุจริตธรรม อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/5 ตรอก 9 ซอย 4 ถนนบางแสนสาย 2 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง พ่วงข้าง หมายเลขทะเบียน คคฉ 776 ชลบุรี เพื่อมาซื้อสิ่งของที่ตลาดใหม่ ชลบุรี นำไปขายที่ร้านขายของชำที่บ้านอยู่อาศัย และถูกรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน หมายเลขทะเบียน ผห 294 ชลบุรี เฉี่ยวชนและเสียชีวิตทั้ง 2 คน ที่บริเวณหน้าศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 9 ขาเข้าตัวเมืองชลบุรี หมู่ 1 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เวลา 04.30 น.ช่วงคืนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังพบว่าหลังจากรถกระบะชนแล้วได้มีเศษกันชนหน้าหลุดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังพบว่ารถกระบะคันที่เฉี่ยวชนได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่บริเวณหน้าบริษัท รามา ชูส์ อินดัสตรีส์ จำกัด ถนนสายเลี่ยงเมืองชลบุรี ขาเข้ากรุงเทพฯ หมู่ 8 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี และคนขับได้ถอดป้ายทะเบียนหน้า-หลังเอาไปด้วยและหลบหนีไป เพราะสีกันชนตรงกับสีรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะได้นำไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ทางด้าน น.ส.จินตนา พี่สาวของ น.ส.อุไรวรรณกล่าวว่า ตนอยากให้คนขับรถกระบะมามอบตัวอย่าหลบหนี อยากให้มารับผิดชอบ เพราะน้องสาวขายของชำเลี้ยงลูก 2 คน เมื่อเสียชีวิตไปทำให้ครอบครัวเดือดร้อน
ลูกชายของ น.ส.อุไรวรรณกล่าวว่า อยากถามคนขับรถกระบะว่าชนแล้วหนี ทิ้งศพแม่ไว้กลางถนนได้อย่างไร ไม่ลงมาช่วยเหลือ
พ.ต.ท.สุวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยืนยันได้ว่ารถกระบะที่ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำเป็นคันที่ก่อเหตุ เนื่องจากกันชนรถที่ตกในที่เกิดเหตุและสีรถเป็นสีเดียวกัน อย่างไรก็ตามต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนคนขับที่หลบหนีไปนั้น เบื้องต้นตั้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่ยอมช่วยเหลือ และแจ้งต่อเจ้าพนักงาน
