ที่ จ.ชลบุรี สาวนัดเคลียร์ 2 หนุ่มคดีใช้ชื่อซื้อรถกระบะ อ้างเอาไปจำนำหมดแล้ว จะขอผ่อนต่อเอง แต่ให้ถอนแจ้งความ หนุ่มไม่ยอมให้ตำรวจดำเนินคดี โดนตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ บุญอ่อน สารวัตรเวร สภ.เสม็ด ได้รับการประสานงานกับ น.ส.บุษราคัม เพื่อเดินทางมาเคลียร์ปัญหาเรื่องการซื้อรถกระบะที่ตกเป็นเหยื่อ 2 คนคือ นายสุบรรณ มีโคทะ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/17 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายวิทวัส เธียรเศวตตระกูล อายุ 32 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.แพร่ แต่มาทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี กรณีที่ใช้ชื่อผู้เสียหายทั้ง 2 คนซื้อรถกระบะ และบอกว่าจะผ่อนค่างวดรถกระบะเอง แต่ปรากฏว่าได้ค้างค่างวดส่งรถกระบะมาแล้วหลายเดือน ทำให้ถูกไฟแนนซ์ทวงถาม จึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เสม็ด
ข่าวน่าสนใจ:
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- จุฬาราชมนตรีปล่อยคาราวานถุงยังชีพ 3,000 ถุง ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
- ชัยภูมิเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดใหญ่งานวันการศึกษาเอกชนภาคอีสาน!
- ได้ฟิวส์สุด ๆ สาวเร่ร่อน ดูดยาบ้าริมหาดพัทยา กลางวงนักท่องเที่ยวนอนอาบแดด
หลังจากนั้น น.ส.บุษราคัม เดินทางมาพบผู้เสียหายทั้ง 2 คน และพยายามไม่ให้นักข่าวถ่ายภาพ พร้อมทั้งเข้าพบกับ พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ เจรจานานประมาณ 30 นาที
หลังจากนั้นนายวิทวัสกล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้ น.ส.บุษราคัม อ้างว่าได้นำรถไปจำนำหมดแล้ว ต่อไปจะขอผ่อนค่างวดเอง แต่ให้ถอนแจ้งความ หรือจะหารถมาคืนให้ และจะเปลี่ยนแปลงสัญญาเป็นชื่อของ น.ส.บุษราคัม เอง แต่ตนเองไม่ยอมความ เพราะไม่เชื่อใจ ประกอบกับถูกหลอกมาแล้วหลายครั้งนี้ จึงให้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ ส่วนคดีอยู่ที่ตำรวจจะต้องดำเนินการต่อไป เพราะมีผู้เสียหายหลายคน
ทางด้าน พ.ต.ท.ฐิติวัสส์กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยทุจริตหลอกลวงเอาข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนผู้ต้องหาต้องดำเนินการตาม ป.วิอาญา มาตรา 134 วรรคท้าย ซึ่งจะต้องควบคุมตัวนำตัวไปส่งศาลให้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผู้ต้องหามาพบกับพนักงานสอบสวน และกำลังขยายผลเกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งจะอยู่ในดุลยพินิจของศาลต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: