ที่ จ.ชลบุรี นทท.อิสราเอลโวยวางขวดเบียร์ริมทาง ถูกกลุ่มอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รีดเงิน 2,000ไม่มีใบเสร็จ เกรงเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ด้านเจ้าหน้าที่ยันนักท่องเที่ยวแสดงอาการไม่พอใจไม่ให้ความร่วมมือ
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 14 ธ.ค.62 MR.ELIRAN ZAGA อายุ 25 ปีนักท่องเที่ยวสัญชาติ อิสราเอล เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ณัชพล แสงสี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยแจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าปรับ 2,000 ในข้อหาวางขวดเบียร์ไว้บนริมทาง แต่ไม่มีการออกใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน เหตุเกิดที่ภายในวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
โดยนักท่องเที่ยวได้เปิดเผยว่าตนเองได้เข้าไปเที่ยวภายในวอล์กกิ้งสตรีท แล้วได้ถือเบียร์เดินจิบมาตามทาง แล้วได้วางขวดเบียร์ไว้ริมทาง ไม่นานก็ได้มีผู้ชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 5 คน เขามาเรียกขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง และขอเก็บค่าปรับจำนวน 2,000 บาท หากไม่ยินยอมจ่ายจะควบคุมตัวส่งดำเนินคดี และไม่มีการออกใบเสร็จให้แต่อย่างใด สร้างความคลางแคลงใจเป็นอย่างมาก เกรงว่าจะตกเป็นเหยื่อของมิฉฉาชีพ จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
ภายหลังได้รับการร้องทุกข์จากนักท่องเที่ยวเบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนจะเชิญตัวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเข้าชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษ ได้ให้การว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำการเรียกนักท่องเที่ยวที่วางขวดเบียร์ทิ้งไว้ แต่นักท่องเที่ยวแสดงอาการไม่พอใจไม่ให้ความร่วมมือ ทางเจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงให้ไปเปรียบเทียบปรับที่สำนักงานเมืองพัทยา แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอมไป ก่อนจะวางเงินทิ้งไว้แล้วเดินหนีไป ส่วนนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาแจ้งความนั้นอาจเป็นเพราะเป็นการเข้าใจผิด ก่อนจะแสดงเอกสารการจับกุม พร้อมใบเสร็จให้นักท่องเที่ยว แต่หลังจากที่นักท่องเที่ยวได้ใบเสร็จกลับมีทีท่าไม่พึงพอใจขยำใบเสร็จทิ้งแล้วเดินจากไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์ในลักษ์ณะนี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในย่านวอล์คกิ้งสตรีท เนื่องจากเป็นแหล่งสถานบันเทิงหลักที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางไปเที่ยวดื่มกินเป็นจำนวนมาก และในทางด้าน นายกเมืองพัทยา นายสนธยา คุณปลื้ม เคยสั่งการให้แก้ไขปัญหาด้วยการติดป้ายเตือนเพิ่มเติมให้เด่นชัดและให้เจ้าหน้าที่ทำการว่ากล่าวตักเตือนประชาสัมพันธ์แทนการเรียกปรับในทันที
แหล่งข่าวยังรายงานและยังได้อธิบาย หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการพิเศษเมืองพัทยาด้วยว่า มีลักษณะเหมือนลูกจ้างทั่วไป คืออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว เช่นแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการจะไป หรือ ประสานงานกรณีมีเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยวโดยในเมืองพัทยาจะมีเจ้าหน้าที่เช่นนี้ ประมาณ 70 นาย ส่วนการดำเนินการจับปรับผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับความสะอาดและสุขาภิบาลนั้นเป็นของเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ซึ่งมีอยู่ประมาณ 120คนเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะออกตรวจตราตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหนาแน่น ไปจนถึงชายหาดต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะกันไม่ให้ผู้ค้าขายละเมิดกฎหมาย นำสิ่งของลงไปขายยังชายหาดหรือตามฟุตปาธริมถนน ส่วนการจับปรับนักท่องเที่ยวนั้น จะเน้นการทิ้งขยะในพื้นที่หวงห้าม เช่นบริเวณชายหาดซึ่งห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด หากพบเห็นก็จะถูกปรับเงิน 2,000 บาท และต้องให้ใบเสร็จแก่นักท่องเที่ยวไว้เป็นหลักฐานด้วย.
