ที่จ.ชลบุรี ผู้ประกอบการร้านทองเหยื่อแก๊งจำนำทองปลอม ออกโรงเตือน แก๊งจำนำทองปลอมอาละวาดหนัก ล่าสุดพบยังก่อเหตุพื้นที่สกลนคร สูญกว่า 10 ล้านบาท
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชลบุรี-พัทยา กับ “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีนาย กฤษ เทียนใหม่ และนาง อนัดดา เทียนใหม่ สองสามีภรรยา เจ้าของห้างทองนิตเทียน นำทองปลอมกว่า 376 บาท พร้อมวงจรปิด ว่าช่วงที่ทองขึ้นนั้นได้มีกลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมชุบเงินแบบหนาสลับเปลี่ยนกันมาจำนำที่ร้านทองนิตเทียน ที่เขต สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า เสียหายเงินกว่า 9 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (17ส.ค.63 ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถาม นางสาว อนัดดา เทียนใหม่ เจ้าของห้างทองนิตเทียน 1 ในเหยื่อแก๊งจำนำทองปลอมในเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น พบขณะนี้มีผู้ประกอบการร้านทองในเขตพื้นที่เมืองพัทยาที่ถูกขบวนการมิจฉาชีพแก๊งนี้ลอกจำนำทองปลอม ได้ติดต่อมาเพื่อสอบถามแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยล่าสุดมีร้านทอง 4 ราย ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาและจังหวัดสกลนคร อีก 1 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งจำนำทองปลอม ส่วนในเรื่องของคดีตอนนี้ทางตำรวจจับผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 1 คน และอยู่ในขั้นตอนการขยายผลจับกุม
ข่าวน่าสนใจ:
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
นอกจากนี้แล้วยังมีร้านทองแม่มาลี ลี 36/11 ม.6 ต. ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก็ได้ถูกแก๊งทองนี้หลอกจำนำทองถึง 54 บาท มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดย นาย สามารถ แจ่มเจริญ ผู้ประกอบการห้างเพชรทองแม่มาลี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า สำหรับกรณีขอตัวเองนั้น เหตุเกิดตั้งแต่ราคาทองยังไม่ได้ขึ้นสูงมาก เริ่มตั้งแต่ 29 พฤษภาคมจนถึงประมาณวันที่ 11 มิถุนายน ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพจะส่งคนมาเรื่อยๆสลับหน้ากันมา บางทีมาตอนเช้า ตอนบ่ายเป็นอีกคน ช่วงเย็นก็เป็นอีกคน ด้วยความที่ทองมันดูเหมือนจริงมากหัวตะขอหัวจรวจก็เป็นของจริงและมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทำการชุบทองมาหนามาก ตัวก็ได้ถามถึงบัตรประชาชนแล้วก่อนรับจำนำแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่าลืมนำมาทุกครั้ง ซึ่งในส่วนของตนรับจำนำทองปลอมมาน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 54 บาท เสียเงินไปประมาณ 1,100,000 บาท ระยะเวลารวมกันประมาณ 10 วัน และมารู้อีกที่ว่าเป็นทองปลอมในวันที่ตัดของเพื่อนำไปส่งที่ร้านส่งย่านเยาวราชให้เข้าสู่ขบวนการหลอมจึงทำให้รู้ว่าเป็นทองปลอมก็เลยนำมาตรวจที่ร้านอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
หลังจากทราบว่าถูกหลอกก็ได้ทำการแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่ก็ยังไม่ได้นำเสนอออกสื่อใด ๆเพราะหวังว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีกครั้งตนจะได้ให้ตำรวจจับตัวไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ทราบว่าผู้ประกอบการร้านทองรายอื่นจะโดนเหมือนกับตัวเอง โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าทองปลอมชุดนี้ ปลอมได้เหมือนมากซึ่งมีส่วนผสมของทองจริงอยู่ด้วย แม้กระทั่งในเรื่องของน้ำหนักทองทางร้านไม่สามรถดูออกเลย ถ้าไม่ได้ทำการเฉือนทอง ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้หากลูกค้านำมาเพื่อจำนำเพราะถ้ามันชำรุดหรือเสียหายทางร้านก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ จึงอยากจะวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งจับคนร้ายให้สิ้นทั้งขบวนการอยากให้ติดตามตัวไปถึงขบวนการนี้เพราะคิดว่าเป็นช่างทองที่อยู่ในวงการและเป็นมืออาชีพอย่างแน่นนอนเพราะปลอมได้เหมือนมาก
ทั้งนี้อยากจะขอเตือนให้เพื่อน ๆ กลุ่มผู้ประกอบการร้านทองเช็คทองให้ละเอียดกว่าทุกครั้ง เพราะลักษณะทองปลอมที่มิจฉาชีพแก๊งนี้ผลิตมาคล้ายกับทองจริงมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้เลย ถ้าหากไม่เฉือนเนื้อทองดู หลังจากนี้ทางร้านจะตรวจเช็คให้ละเอียดมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาแม้จะไม่สามารถเฉือนทองลูกค้าได้เพราะเกรงว่าจะเสียหาย จึงขอฝากไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้เริ่มมีผู้เสียหายเยอะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ทางด้าน พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก. สภ.หนองปรือ กล่าวว่า ภายหลังที่ได้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ได้ร่วมกันจับกุมนายสัน อุลธานน สัญชาติ ลาว อายุ 43 ปี เบื้องต้นในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันพยายามฉ้อโกง โดยให้ทางร้านทองนำหลักฐานทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเคสๆไป ว่าเส้นนี้นำทองมาจำเมื่อไหร่ลงมือชื่อใครมีภาพวงจรปิดหรือไม่ เพื่อจะได้เป็นแนวทางสอบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่จากการสอบสวนทราบว่าร้านทองนั้นไม่ได้มีการยึดบัตรหลักฐานไว้ทำให้ยากแก่การติดตาม เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนไปนำหลักฐานทั้งหมดที่คนร้ายมาจำนำและวงจรปิดแล้ว นอกจากนี้แล้วก็ขอเตือนให้ร้านทองระมัดระวังซึ่งในช่วงนี้ที่ราคาทองขึ้นสูงขึ้น คนร้ายจะอาศัยช่องว่างกระทำความผิด การใช้วิจารณญาณในการตรวจสอบ รวมถึงบุคคลควรมีหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนสามารถติดต่อได้
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชลบุรี-พัทยา กับ “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: