สมาคมนักธุรกิจเมืองพัทยา วอนรัฐบาลขยายเวลาช่วยเหลือไปอีกหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวเสียหายเป็นเวลานาน
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากที่มีกำหนดการ การประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 24 – 25 ส.ค.นี้ ทางด้าน นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผย ว่าจากที่มีกำหนดการ การประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ระยอง รวมถึงการพบปะผู้ประกอบการการท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคตะวันออกนั้น ในฐานะ นายกสมาคมนักธุรกิจการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ก็อยากให้ทางรัฐบาลมีมาตราการช่วยเหลือผู้ประกอบในเมืองพัทยาว่า ทางภาคเอกชนในเมืองพัทยาหลายๆสมาคมได้มีข้อเสนออยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวยาของภาคเอกชนในการต่อเวลาในเรื่องประกันสังคมออกไป จากเดิมที่ให้ทางโรงแรมที่ปิดตัวลงจาก 90 วัน เป็น 180 วัน จริงๆแล้วหมดลงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ทางโรงแรมต้องเปิดเพราะไม่มีเงินช่วยเหลือในส่วนนี้ ต้องหารายได้ช่วยพนักงาน นอกจากนั้นในปัจจุบันตัวนักท่องเที่ยวเองก็มีไม่มาก ซึ่งทางผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายๆโรงแรมได้คุยกันว่าหากเป็นแบบนี้ก็ต้องปิดตัวลง ก็จะมีผลกระทบกับตัวลูกจ้างด้วย อีกเรื่องก็เป็นเรื่องของโรงแรมที่เปิดอยู่ก็อยากให้ช่วยเกี่ยวกับตัวพนักงานที่หลายๆประเทศทำกัน เพื่อให้ลูกจ้างอยู่ในระบบอยู่เพื่อไม่ให้ทางผู้ประกอบการเอาลูกจ้างออก เหมือนลูกจ้างออกไปก็ไปเป็นภาระของประกันสังคมอยู่ดี
นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่างอีกว่า เกี่ยวกับมาตรการช่วยเรื่องค่าไฟ ภาคเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมจะต้องจ่ายขั้นต่ำ 70 เปอร์เซ็นต์ของค่าเฉลี่ย 12 เดือน คือช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาคือช่วงที่โรงแรมเปิดบริการปกติ ซึ่งบางโรงแรมเสียค่าไฟ 1,000,000 บาท ต่อเดือน แต่ผู้ประกอบการจะใช้เท่าไรก็ต้องจ่าย 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องจ่าย 700,000 บาท ซึ่งจริงๆแล้วทางผู้ประกอบการใช้ไฟฟ้าไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งแต่ก่อนตอนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางรัฐให้จ่ายตามความเป็นจริงได้ก็แค่ 3 เดือนซึ่งก็หมดแล้วเหมือนกัน ก็อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้าเช่นกัน
สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกันซึ่งระยะเวลาในการจองมีระยะเวลา 06.00 น.-21.00 น. ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าก็จะเข้ามาดูก็เย็นแล้วหรือนึกได้ก็เข้าไป 20.00-21.00 น.แล้ว ก็จะหมดเวลาในการจอง ซึ่งอยากขยายเวลาในการจองเป็นตลอดทั้งวันก็ได้เพราะปัจจุบันทุกคนก็อยู่กับออนไลน์หมดแล้ว นอกจากนั้นเกี่ยวกับการจองต้องจองล่วงหน้า 3 วัน ซึ่งปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวสมัยนี้ก็คือจองปุ๊ปไปปั๊ปก็อยากให้ปรับเกี่ยวกับเงื่อนไขพวกนี้ รวมถึงเรื่องการใช้จ่ายการเช็คอินที่มีระบบขั้นตอนเยอะ ถ้าทางรัฐบาลช่วยให้ขั้นตอนมันน้อยลงก็สามารถช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้
ส่วนเรื่องงบประมาณของ อสม.นั้นที่ทางภาครัฐบาลให้มาหัวละ 2,000 บาท ซึ่งเมื่อมาถึงผู้ประกอบการค่อนข้างน้อย เพราะว่ามีค่าใช้จ่ายนอกจากค่าที่พัก ค่าอาหาร แล้วยังมีค่าเดินทางอีก ซึ่งจะหนักไปทางค่าเดินทางมากกว่าซึ่งทำให้จังหวัดที่อยู่ไกลก็ไม่สามารถเดินทางมาถึงเมืองพัทยาได้ ซึ่งก็อยู่ในจังหวัดที่มีระยะไม่เกิด 300 กม. ซึ่งมันก็จะกระทบกับค่าเดินทางส่งผลต่อเนื่องมายังค่าอาหารที่พัก ซึ่งส่งผลกระทบในการมาท่องเที่ยวแล้วไม่คุ้มค่า ซึ่ง อสม.ก็ถือเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่งก็อย่างฝากถึงรัฐบาลเกี่ยวกับงบประมาณให้เพิ่มขึ้นส่วนอีกเรื่องก็เรื่องการประชุมทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งภาคเอกชนนั้นไม่มันใจว่าจะมีงบประมาณหรือไม่ แต่ภาครัฐบาลนั้นยังมีงบประมาณแต่งบประมาณที่มีไม่สะท้อนกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ถ้าสามารถกระตุ้นให้มีประชุมสัมมนาในช่วงเดือนงบประมาณที่เหลือก็ถือว่าดี
นอกจากนั้นยังห่วงการกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังเดือนตุลาคม ซึ่งมาตราการทั้งหมดที่กระตุ้นจะหมดภายในเดือนตุลาคม พอหลังตุลาคมแล้วจะเป็นยังไงต่อไปนั้นเรายังไม่แน่ใจเพราะเราต้องพึ่งการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหลักเลย ซึ่งทางภาคเอกชนก็ต้องพึ่งทางภาครัฐเป็นหลักในเรื่องการกระตุ้น เพราะทางภาคเอกชนนั้นก็พยายามปรับตัวในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องราคา เรื่องต้นทุน รวมทั้งการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆขึ้นมาให้สอดคล้องกับตลาดปัจจุบัน
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
