ชลบุรี รายงานสถานการณ์ โควิดวันนี้ เสียชีวิต 12 ราย ผู้ป่วยใหม่กลับมาทะลุพันรายอีก พบติดเชื้อในครอบครัวกว่า 200 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่ม 2 ราย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
วันที่ 8 มี.ค.2565 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ประจำวัน ระบุว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,003 ราย
1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 58 ราย สะสม 2,945 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 866 ราย
ข่าวน่าสนใจ:
2. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 36 ราย
3. บุคลากรทางการแพทย์ 22 ราย
4. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 14 ราย ดังนี้
4.1 จังหวัดสมุทรปราการ 4 ราย
4.2 กทม. 2 ราย
4.3 จังหวัดฉะเชิงเทรา 2 ราย
4.4 จังหวัดสุพรรณบุรี 2 ราย
4.5 จังหวัดขอนแก่น 1 ราย
4.6 จังหวัดจันทบุรี 1 ราย
4.7 จังหวัดภูเก็ต 1 ราย
4.8 จังหวัดอยุธยา 1 ราย
5. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
5.1 ในครอบครัว 201 ราย
5.2 จากสถานที่ทำงาน 70 ราย
5.3 บุคคลใกล้ชิด 55 ราย
5.4 ร่วมวงสังสรรค์ 6 ราย
6. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 42 ราย
7. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 499 ราย
ณ วันที่ 8 มีนาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 844,322
คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 2,031 คน (อัตราป่วย 240.55 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 1 ราย (0.12 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 2 ราย (0.24 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 3 ราย (0.36 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,891,944 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 2,902 คน (อัตราป่วย 153.39 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 8 ราย (0.42 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 3 ราย (0.16 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 2 ราย (0.11 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 100,973 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 336,156 คน รวม 437,129 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 3,731 คน (อัตราป่วย 853.52 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 17 ราย (3.89 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (1.14 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 21 ราย (4.80 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2564, รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนหนึ่งเข็มเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2564), ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 4 ราย (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มวันที่ 20 ม.ค. 2565, รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนหนึ่งเข็มวันที่ 2 ก.พ. 2565 และอีกสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน), และพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 12 ราย (อายุต่ำสุด 36 ปี, อายุสูงสุด 94ปี เฉลี่ยอายุ 71 ปี ) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2564, รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2564, รายที่สามพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2564, รายที่สี่พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2564, รายที่ห้าพบประวัติการรับวัคซีนหนึ่งเข็มเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564, และอีกเจ็ดรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี
ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1 ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2 เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4 สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: