จากกรณี ชาวต่างชาติพาสิงโตนั่งรถเบนท์ลีย์ เปิดประทุน แล้วขับตระเวนในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แล้วมีคนถ่ายคลิปนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์ จนเป็นกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์ โดยมีการนัดหมานตรวจเอกสารที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ต่อมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ( 24 ม.คน.67 ) นางสาวปูเป้ นามสมมุติ อายุ 38 ปี ได้พาเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบสิงโตภายในบ้าน โดยมีการเข้าไปตรวจสภาพและตรวจหาไมโครชิพ พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารการครอบครอง ในเบื้องต้น สิงโตมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรง และ พบไมโครชิพที่หัวไหล่ด้านขวา โดยใช้เวลาตรวจประมาณ 30 นาที
นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา ) เปิดเผยว่าจากการที่ให้นายสัตวแพทย์เข้าไปตรวจสอบไมโครชิพพบว่าเป็นไมโครชิพที่ถูกต้องตรงกับเอกสารที่สำนักบริหารบ้านโป่ง เป็นสิงโตที่ถูกต้องตามกฏหมาย ส่วนความผิดในข้อหาครอบครองสิงโตโดยซึ่งเป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก โดยไม่ได้รับอนุญาตกับการเคลื่อนย้าย ผู้ที่ครอบครองที่มีชื่อและผู้ที่ครอบครองที่พัทยาซึ่งต้องไปชี้แจงกับพนักงานสอบสวนเอาว่าเรื่องราวข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนของสิงโตถ้าพูดตามระเบียบแล้ว ผู้ที่ครอบครองอยู่ที่นี่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของสิงโตนะครับถ้าโดยหลักการก็ควรจะส่งสิงโตกลับไปที่ต้นทาง ถ้าหากว่าขั้นตอนกระบวนการตามระเบียบถูกต้องครบถ้วนแล้วก็สามารถนำสิงโตมาได้ แต่ต้องให้สำนักบริหารที่ ศรีราชาตรวจสอบสถานที่ที่จะให้สิงโตอยู่ก่อนว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมตามที่ทางราชการกำหนดไว้หรือไม่
นางสาวปูเป้ ( นามสมมุติ ) กล่าวว่า ปูเนี่ยทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โดยเพื่อนต่างชาติสนิทกันรู้จักกันในฐานะเพื่อน อยากให้หาสิงโตแล้วก็เราเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์เหมือนกันชอบเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวแล้วเราก็เลยบอกว่าเออเนี่ยเรามีเพื่อนขายสิงโตแล้วเราก็อยากได้สิงโตมาเลี้ยงเหมือนกัน เค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวฉันซื้อให้เป็นของขวัญ โดยเลี้ยงตั้งแต่เล็ก โดยเลี้ยงที่บ้านปู แล้วบ้านปูก็มีหมามีแมว แล้วก็ทำงานด้วยค่ะทำงานทุกวัน แล้วก็ยุ่ง แล้วก็เลยมาให้เค้าเลี้ยง ส่วนที่เอาสิงโดไปนั่งรถตามภาพนั้นเนื่องจากวันนั้นตนงานยุ่งให้เค้าพาสิงโตไปหาหมอให้หน่อยเพราะว่าเหมือนกับว่ามันไม่ค่อยสบายแล้วมันน่ะตัวเล็กเกินเกณฑ์น่ะมันผอม เขาก็เลยพาสิงโตไปหาหมอในวันนั้นแล้วเราก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาไปใส่รถเปิดประทุนแบบนั้นเราก็ด่าเขาไปเหมือนกันว่าเราจะเดือดร้อนเพราะกำลังทำเรื่องขอเอกสาร เราก็ไปดำเนินการถึงสองรอบแล้วไปที่ชลบุรี แต่ทางชลบุรีแจ้งว่าเอกสารไม่สมบูรณ์เพราะว่าฟาร์มใส่เพศของน้องผิด เราก็เลยต้องส่งเอกสารกลับไปแล้ว ก็ไปเปลี่ยนเอกสารมาใหม่เพราะเปลี่ยนเอกสารมาใหม่ เอกสารก็ไม่สมบูรณ์อีก แล้วก็ส่งกลับไปอีกค่ะ จนมันมีข่าวออกมาโด่งดังแต่คือว่าตอนเนี่ยเอกสารสมบูรณ์แล้ว เราก็น่าจะได้ใบอนุญาตเร็ว ๆ นี้
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.ปูเป้ โดยแจ้งข้อหา ครอบครอง มาตรา 90 ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 19 วรรคหนึ่ง ชนิด ซากที่ประกาศกำหนดต้องแจ้งการครอบครอง จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท/ทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 91 ไม่ปฏิบัติตามระเบียบระเบียบตามมาตรา 19 วรรคสอง จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท/ ทั้งจำทั้งปรับ
