ความคืบหน้า คดีพยายามข่มขืน จุดไฟเผา และ ชิงทรัพย์ นักท่องเที่ยวชาวจีน
เมื่อเวลา 13.00 น. ( 21 ก.พ.67 ) พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบปากคำ นายทิพย์ ภาศิริ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดีนี้ เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งยอมรับว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ในการลงมือก่อเหตุผู้เสียหาย ในส่วนกรณี การจุดไฟเผาป่า ผู้ต้องหามีการยืนยันแล้วว่า ไม่มีความประสงค์จะลงมือสังหาร หรือ ฆ่าปิดปาก แต่เป็นการเผาทำลายหลักฐาน อาทิ เสื้อผ้า และ เอกสารสำคัญ ของผู้เสียหายเพื่อทำลายพยานวัตถุหลักฐาน
ข่าวน่าสนใจ:
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยต้องคดีชิงทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ คดีอาวุธปืน เพิ่งจะพ้นโทษออกมา เมื่อปี 2560 หลังจากพ้นโทษได้เดินทางมาทำงาน ในพื้นที่ จ.ระยอง และมักมีพฤติกรรม ตระเวนลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหาย ซึ่งในส่วนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดบ้าง นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหาใช้รถ 2 คัน ในการก่อเหตุ โดยรถคันแรกเป็นรถจักรยานยนต์ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีการแจ้งความหายไว้เมื่อ ปลายปี 2566 จากนั้นก็จะขับมาเปลี่ยน เป็นรถยนต์กระบะ เพื่อใช้ในการหลบหนี ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหารายนี้ลงมือก่อเหตุ เพราะต้องการประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหายังให้การยอมรับว่าทรัพย์สินที่ได้ไป เป็นเงินสดไทย 10,800 บาท และเงินสกุลหยวน 1,600 หยวน โดยเงินสกุลหยวน สามารถนำกลับมาคืนผู้เสียหายได้ทั้งหมด ส่วนในเรื่องของการได้เงินมาแล้ว จะนำไปใช้อะไรนั้น ทางผู้ต้องหาไม่ได้ให้การ แต่ตำรวจ พบว่าในโทรศัพท์มือถือ มีการเล่นพนันออนไลน์ อีกทั้งมีการส่งตัวไปตรวจสอบหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นยังไม่พบ
ในส่วนของการดำเนินคดีตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมด 5 ข้อ 1.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด และ พาทรัพย์นั้นไป
2.พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, 3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถชัดขืนได้ เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมีใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้น, 4.วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น และ 5.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยแต่ละข้อหา มีโทษสูงสุด คือจำคุก 10-20 ปี
ส่วนความคืบหน้า ในเรื่องของผู้เสียหาย ทางผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการกำชับให้ดูแลและอำนวยความสะดวก และ ทำคดีอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งฝากไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย ขอแนะนำให้เดินทางมาเป็นหมู่คณะ หรือเป็นกรุ๊ปทัวร์ เนื่องจากจะเกิดความปลอดภัยมากกว่า อีกทั้ง การแยกออกมาเที่ยวตามลำพัง อาจเกิดความเสี่ยง ทั้งในเรื่องของการสื่อสาร และความไม่ชำนาญเส้นทาง อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้….
1.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด และ พาทรัพย์นั้นไป
2.พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,
3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถชัดขืนได้ เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมีใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้น,
4.วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น
5.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: