เตรียมออกมาจับลูกเรือ 17 คน รายงานตัวจันทร์นี้ ด้าน “บิ๊กเต่า” ระบุ มีการวางแผนหลบหนีล่วงหน้า
ความคืบหน้ากรณีที่กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) รายงานว่าเรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำ ซึ่งบรรจุน้ำมันรวมกว่า 3.3 แสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ล่าสุดวันนี้ (13 มิ.ย.67 ) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เจ้าหน้าตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าหาข้อเท็จจริง เรือบรรทุกน้ำมันหาย 3 ลำ ณ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยใช้เวลาประชุมนานเกือบ 3 ชั่วโมง
ข่าวน่าสนใจ:
- ไร้ปาฏิหาริย์ สิ้น “อ.สุนทรี สังข์อยุทธ์” อดีตหัวหน้าหอจม.เหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ กวีซีไรต์ “จิระนันท์ พิตรปรีชา” โพสต์อาลัย
- ตรัง ชาวบ้านร้องตรวจสอบทน.ตรังทำถนนรวดเดียว 65 สาย วิจารณ์หนักเปลืองงบประมาณ
- "น้องปูกลอง"มาสคอตมหาสารคาม สนง.ท่องเที่ยวฯ แจงตัดสินทุกอย่างตามเกณฑ์ มีที่มาชัดเจน
- นายกเทศบาลนาจอมเทียนลงตรวจพื้นที่ชายหาด พร้อมบูรณาการร่วมเมืองพัทยาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยหลังการประชุม ว่า หลังจากสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำชุดที่เข้าเวร พบว่ามีการปฏิบัติหน้ายังไม่สมบูรณ์ ตามหน้าที่ไม่ครบถ้วน หรือพูดง่าย ๆว่า ไม่ทำหน้าที่ จนทำให้เกิดความเสียหาย จำนวน 2-3 คน โดยจะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสืบสวน ของ ปปป. คู่ขนานไปกับตำรวจน้ำ ซึ่ง ปป.จะทำการสืบสวนเมื่อพบความผิดก็จะแจ้งข้อหา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สมบูรณ์ถือว่าเข้าข่าย 157 พร้อมจะมีขยายผลและไม่หยุดดำเนินคดีเพียงแค่นี้ อีกทั้งจะเร่งตามทรัพย์สินกลับคืนมา
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนิน 157 ไม่รวมถึง นายตำรวจทั้ง 5 นาย ที่มีการออกคำสั่งให้ช่วยราชการ และจะมีการสอบสวนทั้ง 5 นายว่าใครที่ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้วหรือไมจากนี้จะมีการทำหนังสือเรียกลูกเรือทั้ง 17 คน เข้ามารายงานตัวและสอบปากคำลูกเรือทุกคน ในวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายนนี้ ที่ ปอศ. และเจ้าหน้าชุดสืบสวนของกองปราบอยู่หว่างการสกรีนรูปภาพจากกล้องวงจรปิดว่ามีลูกเรือคนไหนอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง ทั้งนี้เชื่อว่าลูกเรือทั้ง 17 คน ไปกับเรือทั้ง 3 ลำ แค่จะมีลูกเรือกี่คนที่ไปกำกับเรือ แต่จะมีกี่คน ขณะนี้อยู่ในขั้นการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ามีในช่วงเย็นก่อนเรือจะหายลูกเรือมีการขนของในช่วงเย็น โดยในส่วนตรงนี้จะมีการออกหมายจับลูกเรือในชุดแรก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวนทางเทคนิคและใต้ดิน ซึ่งทางใต้ดินมีความเชื่อมโยงว่าเรือทั้ง 3 ลำจะข้ามน่านน้ำไทย และเรือทั้ง 3 ลำไม่มีการติดgps และดาวเทียมอย่างแน่นอน เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการวางแผนเอาไว้และมีการนำเครื่องมืออื่นมาใส่ในการให้เรือเดินเรือแทน อีกทั้งอาจจะมีการเดินเรือด้วยการยิงดาวเทียมเอสไว้ก่อน โดยจะเร่งออกหมายจับให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิด เกิดจากเจ้าหน้าตำรวจน้ำทำงานบกพร่อง
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยเสริมว่า สำหรับคดีน้ำมันนี้เป็นคดีของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตอนนั้นที่เราจับกุมเรามีข้อมูลว่าเอามาจากไหน จะเอาไปที่ไหน ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่ ซึ่งตอนจับกุมอยู่บริเวณน่านน้ำสากล พฤติกรรมนั้นจะรับน้ำมันจากเรือใหญ่ แล้วนำเข้าหลายจุดในอ่าวไทย เช่น เพชรบุรี สมุทรสาคร และทางตอนใต้ ส่วนจะมีพัวพันคนชื่อโจ้ไหม ขออยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของตำรวจ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวร รายงานมายังสารวัตรตำรวจน้ำสัตหีบว่าเกิดเหตุการคลื่นลมแรง จึงขออนุญาตนำเรือออกไปลอยลำทอดสมอ ห่างจากสะพาน 100 เมตร เพื่อป้องกันสะพานและเรือน้ำมันของการได้รับความเสียหายจากคลื่นลมแรง ในช่วงเย็นของวันที่ 8 มิถุนายน 2567
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. 13 มิ.ย.2567 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เซ็นคำสั่งลงนามในหนังสือคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 131/2567 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. จำนวน 5 นาย ย้ายมาช่วยราชการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ศปก.บช.ก. โดยให้ขาดจากต้นสังกัด มีผลนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.รน. ทั้ง 5 นาย ที่ถูกสั่งให้มาประจำการอยู่ที่ ศปก.บช.ก. นั้น ประกอบด้วย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 บก.รน. ,พ.ต.ท.อาจินต์ วังวรรธนะ รอง ผกก.5 บก.รน., พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน., ส.ต.อ.ธรรมรัตน์ เล็กมนตรา ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.5 บก.รน. ,ส.ต.ท.อภิชาติ จันทร์หนู ผบ.หมู่ ส.รน.3 กก.5 บก.รน.
สำหรับการเซ็นคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ทั้ง 5 รายดังกล่าว เป็นผลพวงจากกรณี เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำบรรจุน้ำมันรวมกว่าสามแสนลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งนี้ก็เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นอกจากนี้ยังมีภาพที่ในวันที่มีการนำเรือออกจากสะพานเนื่องจากมีคลื่นลมแรงมากต้องนำเรือออกจากฝั่ง เพราะอาจทำให้เรือจม และยังมีภาพทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือนำเครื่องบินออกตรวจเรือตามเส้นทางที่จะหลบหนี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: