จากกรณี เมื่อเวลา 17.30 น. ( 25 มิ.ย.67 ) เกิดเหตุ คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืน สาดกระสุนยิงใส่ รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไททัน สีขาวทะเบียน กฉ 1238 จันทบุรี คมกระสุนทะลุกระจก ไปถูกผู้หญิงซึ่งนั่งมาในรถและไม่รู้อิโหน่อิเหน่จนเสียชีวิตต่อหน้าสามี และ หัวหน้างาน ทราบชื่อนางสาว เพ็ญประภา พละโพธิ์ อายุ 33 ปี ชาวจันทบุรี โดยคมกระสุนเจาะเข้าคอทะลุหัวไหล่ซ้าย ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายมงคล บุญสมทบ หรือเหม่ง อายุ 34 ปี ส่วนปมเหตุ น่ามาจากมือปืน ไม่พอใจกลุ่มคนที่นั่งมาในรถ เป็นพวกเดียวของพ่อตา ซึ่งคอยมีปัญหากัน มาก่อนหน้านี้ถึงขั้นมือปืน เคยนำอาวุธปืนออกมาจ่อพ่อตา ก็จะตามมาก่อเหตุยิง เหตุเกิดภายในซอยห้วยสะพาน หมู่ 9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. ( 25 มิ.ย.67 ) นายมงคล บุญสมทบ หรือเหม่ง อายุ 34 ปี ได้เดินทางเข้ามอบตัว กับตำรวจ สภ.หนองปรือโดยมีผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลโป่ง เป็นผู้เข้ามอบตัว พร้อมกับ อาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อเอสทีไอ ( STI ) ที่ใช้ในการก่อเหตุ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถกระบะ 4 ประตูคันกล่าวจริง เพราะตนเองจำรถคันนี้ได้แม่นว่าเป็นรถที่ พ่อตา พร้อมกับพวก ขับมาก่อเหตุรุมทำร้ายตนเอง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา เพราะพ่อตา ไม่ต้องการให้ตนเลิกยุ่งกับลูกสาว โดยก่อนเกิดเหตุ เห็นรถคันนี้ ขับผ่านเข้ามาในซอยเมื่อเห็นรถก็รู้สึกโกรธ ประกอบกับพกปืนติดตัวมาด้วย จึงเกิดบันดาลโทสะ จึงขี่รถตามไปก่อเหตุยิง และไม่ตั้งใจสาดกระสุนใส่รถ โดยต้องการจะยิงขู่เท่านั้น ยิงไปทั้งหมด 4 นัด แต่วิถีกระสุนพลาดไปถูกคนที่นั่งอยู่ในรถจนผู้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจ ตั้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่น และ ความผิดเกี่ยวกับพรบ.อาวุธปืน โดยเจ้าตัวไม่ยอมคำถามใดๆ กับ นักข่าวที่ไปเฝ้าติดตามทำข่าวคดีนี้
นางสาวโม นามสมมุติ อายุ 18 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองกับสามี ( ผูกข้อไม้ข้อมือกันแล้ว ) เคยเลิกกันเมื่อประมาณต้นปี เพราะสามีไปพาเมียเก่ากับลูก มาอยู่ด้วย ตอนนั้นตนเสียใจมาก พ่อจึงไปช่วยย้ายของออกจากบ้านสามีแล้วออกมาเช่าห้องอยู่ลำพัง แต่พอผ่านไปสักพักตนกับสามีได้กับมาคบอีกครั้ง ทำให้พ่อไม่พอใจ และยกพวกประมาณ 4-5 คน ไปรุมกระทืบสามีที่ห้องเช่า จนหัวแตก ร่างกายบอมช้ำไปทั้งตัวโดยสามีได้มาแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.หนองปรือ ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองกับยอมรับว่าพ่อผิดตัวเองต้องหนีไปกรุงเทพฯ แต่สามีก็ยังฝังใจและ จำได้ว่าในวันที่ถูกพ่อยกพวกไปรุมกระทืบ ได้ขับรถกระบะ 4 ประตูคันนี้ ไปก่อเหตุ ก่อนจะเกิดเหตุการณดังกล่าวขึ้น
นายหนุ่ย นามสมมุติ อายุ 33 ปี สามีของผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า วันนี้คงเป็นวันที่ซวยที่สุดในชีวิต ปกติแล้ว ตนเองจะไม่ได้เป็นคนขับรถคันนี้ปกติแล้ว พี่เขยและเป็นหัวหน้างาน คือ นายธงชัย บุตรทอง ( #ใส่เสื้อสีเทา เป็นเพื่อนของพ่อตาผู้ก่อเหตุ ) จะเป็นคนขับประจำ แต่วันนี้ พี่เขยเจ็บขา จึงให้ตนเองมาขับแทน ก่อนเกิดเหตุนั่งมาในรถ 4 คน ตนเองเป็นคนขับ พี่เขยนั่งข้าง พี่สาวนั่งหลัง ส่วนภรรยา ( ผู้ตาย ) นั่งอยู่เบาะนั่งหลังคนขับ ส่วนท้ายกระบะมีคนงานนั่งมา 1 คน คือ นายรัฐพงษ์ ควรรับส่วน อายุ 18 ปี ระหว่างที่กำลังเลี้ยวเข้าที่พัก ก็ได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 3-4 นัด จากนั้น พี่สาวก็ตะโกนว่า “น้องใหม่โดนยิง” ตนเองจึงรีบตัดสินใจรีบเลี้ยวรถเพื่อขับพาแฟนไปโรงพยาบาล ด้วยความไม่ชำนาญทางประกอบกับตกใจมาก จึงตัดสินใจ โทร 1669 ให้รถพยาบาลมารับภรรยา สุดท้ายภรรยาก็มาเสียชีวิตดังกล่าว
นายหนุ่ย ยังเล่าอีกว่า ตนกับภรรยา ไม่เคยรู้จักกับมือปืนมาก่อน เพราะตนกับภรรยา เพิ่งจะมาจากจันทบุรี มาทำงานกับพี่เขย ได้แค่ 2 อาทิตย์และที่สำคัญ ตรงจุดที่ภรรยานั่งในรถ เป็นจุดที่ตนต้องนั่งประจำ แต่วันนี้พี่เขยเจ็บขา จึงไปขับรถแทน อีกทั้งก่อนภรรยาจะเสียชีวิต ก็มีลางบอกเหตุไม่ดี เพราะตนเองได้พาภรรยาไปทำบัตรประชาชนที่อำเภอนิคมพัฒนา จ.ระยอง หลังจากทำบัตรเสร็จ ภรรยาได้นำบัตรประชาชนมาโชว์ในสีหน้าไม่ดี และพูดว่า “ตัวเอง ดูรูปบัตรประชาชนสิ ทำไมรูปหน้าดำจัง” ซึ่งตนก็ปลอบแฟนว่า เดี๋ยวค่อยมาทำใหม่ ถัดมาอีก 2 ชม. ภรรยาก็มาถูกยิงตาย ซึ่งเกิดเหตุที่เกิดขึ้นตนเสียใจมาก เพราะตนกับภรรยาคนนี้ตั้งใจจะมาเริ่มชีวิตใหม่ และ สร้างครอบครัวด้วยกัน ตอนแรกจะไปทำมาหากินที่ จ.สระแก้ว ก็ตนเองก็เปลี่ยนใจ พาภรรยามาอยู่กับพี่เขย และไม่คิดว่าความฝันสร้างครอบครัวจะฝันสลายเหมือนว่าตนเองพาเมียมาจบชีวิตที่นี่ และขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย
