โจรปล้นร้านทองสัตหีบเข้ามอบตัวหลังถูกเจ้าหน้าที่กดดัน ก่อนคุมตัวทำแผนได้ของกลางทองคำครบ 109 บาท
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีเมื่อเวลา 10.15 น.ของวันที่ 28 เม.ย.62 ได้มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วมสูงประมาณ165-175 ซม.ใส่ชุดดำสวมเสื้อยืดแขนยาวและกางเกงยีนส์ขายาวสวมไอ้โม่งหมวกลายพรางทหารและใส่รองเท้าหนังสีน้ำตาลใช้อาวุธปืนชนิดออโตเมติกไม่ทราบชนิดและขนาดลงมื้อชิงทรัพย์ห้างทองสุพัตราเยาวราช ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาสัตหีบบ้านเตาถ่านม.8 ต.สัตหีบอ.สัตหีบจ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านของดร.สะถิระเผือกประพันธุ์ว่าที่สส.เขต 8 ชลบุรีได้สร้อยทองรูปพรรณเป็นสร้อยข้อมือหนัก 5 บาท 6 เส้นหนัก 3 บาท21 เส้นและสร้อยคอหนัก 2 สลึง 32 เส้นรวม 59 เส้นนำหนักรวมทั้งหมด 109 บาทมูลค่ากว่า 2,120,050 บาทก่อนใช้ช่องทางท่อระบายน้ำข้างห้างสรรพสินค้าที่ทะลุเข้าไปในป่าหลบหนีไป
ล่าสุดวันนี้เมื่อเวลา 10.00น. พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติศรีวรขานรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาทำการสอบสวนผู้ต้องหาและทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วยตนเองโดยมี พล.ต.ท. จิตติรอดบางยางผบช.ภ. 2 พล.ต.ต.นันทชาติศุภมงคลผบก.ภ.จว.ชลบุรีและพ.ต.อ.ชโลธรเปรมปรีผกก.สภ.สัตหีบ. พลเรือโทจำรัส- คุณสุพัตราเผือกประพันธ์ พ่อแม่ ดร.สะถิระเผือกประพันธุ์ว่าที่ สส.เขต 8 ชลบุรีเจ้าของร้านร่วมแถลงข่าวที่บริเณชั้น 3 สภ.สัตหีบอ.สัตหีบ จ.ชลบุรีหลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหานายศรชัยนิลสนธิอายุ 34 ปีชาวจังหวัดพิจิตร พร้อมของกลางสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาทจำนวน 21 เส้นสร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาทจำนวน 6 เส้นและสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงจำนวน 32 เส้น รวมจำนวน 49 เส้นน้ำหนัก 109 บาทรวมมูลค่า 2,180,00 บาท และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟิลาโนสีแดงเลขทะเบียนจวฉ-469 ชลบุรีที่ใช้ในก่อเหตุ
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเผยว่าหลังสืบทราบว่าหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานในจังหวัดพิจิตร ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ติดต่อให้มอบตัวและกดดันอย่างหนัก จนคนร้ายติดต่อขอเข้ามอบตัวที่สภ.ภาชีจังหวัดอยุธยา เนื่องจากญาติพี่น้องคนร้ายรู้จักกับตำรวจที่สภ.ภาชี โดยเจ้าที่สามารถติดตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามท้องถนน ที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายใช้ จยย. ยามาฮาฟีโอเร่สีแดงทะเบียนจวฉ-469 ชลบุรี และสืบทราบจนถึงตัวผู้ต้องหาและทราบว่าได้หลบหนีไปในจังหวัดพิจิตร โดยของกลางทองคำหนัก 109 บาทอยู่ครบโดยผู้ต้องหานำไปซุกซ่อนภายในบ้านพักที่เอื้ออาทรอ.บางละมุงจ.ชลบุรี
มีรายงานว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาและได้รับสารภาพว่า ที่ต้องก่อเหตุเพราะมีแรงจนใจเพราะติดหนี้การพนันไฮโลจนเงินหมด โดยเป็นหนี้เงินสดจำนวน 100,000 บาทและนำรถกระบะของตนเองไปจำนำเพิ่มอีกมูลค่า 150,000 บาท ในเมืองพัทยาและอีกอย่างอยากหาเงินซักก้อนไปอยู่กับแม่ที่จังหวัดพิจิตร และจะนำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก
ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นปืนปลอมคือบีบีกัน ที่ซื้อมาจากตลาดนัดเทพประสิทธิ์เมืองพัทยา อ.บางละมุงจ.ชลบุรี 6 เดือนก่อนจะก่อเหตุโดยหลังเกิดเหตุอาวุธปืนปลอมที่ใช้ในก่อเหตุขณะวิ่งหลบหนีปืนได้หลุดจากมือร่วงลงไปในร่องน้ำใกล้เคียงที่เกิดเหตุ โดยได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนจยยทึ้งบริเวณอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ในพื้นที่เมืองพัทยา หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านแม่ในจังหวัดพิจิตร ก่อนจะเห็นตนเองในข่าวจึงรับสารภาพกับญาติพี่น้องตนเองว่าเป็นคนที่ก่อเหตุ ก่อนจะติดต่อขอเข้ามอบตัวที่สภ.ภาชีจ.อยุธยาเพราะญาติพี่น้องรู้จักตำรวจที่สภภาชีกลัวว่าตนจะถูกวิสามัญ
คุณสุพัตราเผือกประพันธ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็ว และขอขอบคุณผู้บัญชาการทุกท่านและชุดสืบสวนที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วมากทำงานแค่ 2 วันก็จับได้แล้ว ซึ่งทางร้านก็เตรียมการติดลูกกรงเพื่อป้องกันการก่อเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก ทางเจ้าของร้านได้มอบช่อดอกไม้และเงินสดจำนวน 100,000 บาทเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานจนสามารถจับกุมได้ พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบรับคำสารภาพท่ามกลางการเฝ้าดูของฝูงชนจำนวนมากก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…
