ผู้การ จ.ชลบุรี แถลงข่าวจับกุม 1 ในคนร้ายที่ร่วมกันใช้อาวุธสงครามยิงถล่มและปาระเบิดถล่มร้านกาแฟ – คาร์แคร์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงแต่เป็นคนขับรถมา
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
วันที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลา 13.30 น.พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวรทรัพย์ ผกก.สภ.แสนสุข และ พ.ต.ท.สุวิจักขณ์ กู้พิมายวรกูล รอง ผกก.สส.ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายณัฐกิตติ์ หรือมด พลศรีษะ อายุ 32 ปี หลังได้ร่วมกับพวกอีก 4 คน ใช้อาวุธสงครามยิงและปาระเบิด ถล่มร้านกาแฟและคาร์แคร์
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แถลงว่า ด้วยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 62 ได้มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รี่โว่ สีขาว แค็ป ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิง และ ขว้างระเบิดเข้าไปที่ร้านโอที คาร์แคร์ ซึ่งต่อมาชุดติดตามจับกุมได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่า รถยนต์กระบะคันที่ใช้ก่อนเหตุได้หลบหนีไปนั้นมีนายณัฐกิตติ์ พลศรีษะ เป็นคนขับและรถยนต์คันก่อเหตุได้ไปซุกอยู่ในพื้นที่ ต ซากโดน อ.แกลง จ.ระยอง ตรวจสอบประวัตินายณัฐกิตติ์ พลศรีษะ หรือมด พบว่าเคยมีประวัติค้ายาเสพติด และเคยถูกจับคดีอาวุธปืน ในลักษณะการรับจ้างยิงถล่ม โดยมีสายลับให้ข่าวว่า ได้ยินจากคำพูดของนายณัฐกิตติ์ฯ ขณะนั่งคุยกันในกลุ่มเพื่อว่านายณัฐกิตติ์ฯ ได้ไปก่อเหตุมา และพูดในลักษณะว่าไม่มีทางจับกุมตนได้ เนื่องจากข่าวลงว่า เป็นรถยนต์รุ่นดีแม็กซ์ ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากก่อเหตุ นายณัฐกิตต์ฯได้นำรถยนต์ไปดัดแปลงสภาพ ไม่ให้เหมือนสภาพที่ใช้ในการก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ฯ จึงได้ทำการตรวจยึดรถยนต์คันที่คันที่นายณัฐกิตติ์ฯใช้ก่อเหตุ โดยตรวจยึดได้จากนายขวัญยืน ศิริลพ ที่บริเวณตลาดผลไม้เขาดิน โดยนายขวัญยืนฯยืนยันว่ารถยนต์ของตนไม่ได้มีสภาพนี้ จะเป็นรถยนต์สภาพเดิม และตำนิรูปพรรณรถจะตรงกับรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ
โดยนายขวัญยืนฯได้รับรถยนต์คันดังกล่าวมาจากนายณัฐกิตติ์ฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ฯได้สืบทราบว่านาย ณัฐกิตติ์ฯได้ไปปรากฏตัวที่ศาลจังหวัดระยอง เพื่อทำการเบิกความในคดี “พยายามฆ่าฯ” เมื่อเบิกความเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ฯได้เข้าไปทำการเชิญตัวนายณัฐกิตติ์ฯมาทำการสอบปากคำ ซึ่งในเบื้องต้นนายณัฐกิตติ์ฯให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยมีนายสุรัตน์ รัตนพงษ์ หรือเล่ ซึ่งอยู่เบื้องหลังในคดีนี้ ซึ่งมีความแค้นส่วนตัว กับนายสิทธิชัย มานะดี หรือต้อล เจ้าของร้านโอที คาร์แคร์ โดยนายสุรัตน์ฯได้ใช้ให้นายชัชวิน วงษ์รักษ์ หรือจ้วน เข้ามาติดต่อนายณัฐกิตติ์ฯเพื่อทำงานนี้ จากนั้นนายชัชวินฯ ได้มอบโทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง ไว้เพื่อติดต่อกับนายสุรัตน์ฯ โดยนายชัชวินฯ บอกว่านายสุรัตน์ฯ จะให้ค่าจ้างจำนวน 50,000 บาท หลังเสร็จงาน ซึ่งหลังนาย ณัฐกิตติ์ฯรับงานนี้ไว้ โดยได้ไปรับรถคันก่อเหตุที่ปั้ม ปตท ชื่อสาขา ตันติชัยปิโตรเลี่ยม ซึ่งรถได้ทำการจอดและคากุญแจไว้ และนายณัฐกิตติ์ฯได้นำรถออกมาก่อเหตุ โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 นายณัฐกิตติ์ฯพร้อมพวกอีก 2 คน ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ พ่วงสวัสดิ์ หรือเอก และนายอ้วน (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ได้เข้าไปก่อเหตุสถานที่ดังกล่าว ซึ่งนายณัฐกิตติ์ฯเดินทางออกมาจากระยองพร้อมนายสัมพันธ์ฯ และแวะรับนายอ้วน (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) บริเวณ ถนนหมายเลข 36 ซึ่งนายอ้วน เป็นคนนำเทปกาวมาปิดแผ่นป้ายทะเบียนหน้า-หลังเพื่ออำพราง โดยมีการแบ่งหน้าที่กัน นายณัฐกิตติ์ฯมีหน้าที่ขับรถ , นายสัมพันธ์ฯ มีหน้าที่ปาระเบิด ส่วนนายอ้วน มีหน้าที่ยิงปืนอาก้าใส่เข้าร้าน
หลังจากนั้นได้หลบหนีโดยแวะส่งนายอ้วน บริเวณถนน หมายเลข 36 ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่แวะรับก่อนเข้ามาก่อเหตุ และขับรถยนต์ต่อไปพร้อมกับนายสัมพันธ์ฯ ยังจุดที่พบกล้องวงจรปิดจุดสุดท้าย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับข้อมูลกล้องวงจรปิดที่เจ้าพนักงาน กก.สืบสวน.ภ.จว.ชลบุรี ได้มา ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น นายอ้วน เป็นคนเตรียมมา (ยกเว้นกระสุนปืนและระเบิด นายณัฐกิตติ์ฯได้ไปเอาที่นายอนันต์ ธรรมสนิท หรือ อ่ะ ) ซึ่งหลังวันเกิดเหตุ 2-3 วัน นายสุรัตน์ฯ ได้ฝากเงินกับนายชัชวินฯ จำนวน 20,000 มาให้นายณัฐกิตติ์ฯ รวมทั้งยกรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุไว้ให้ใช้ นายณัฐกิตติ์ฯจึงได้นำไปดีดแปลงสภาพที่ร้านนุล้อซิ่ง และได้มอบให้นายขวัญยืนฯ นำไปใช้
