ชาวบ้านจุดธูปวิงวอนขออย่ารื้อ “ศาลเจ้าพ่อแขก” แดนประหารเขาตะแบก พร้อมขอให้อัญเชิญไปไว้ในสถานที่อันควร เพื่อให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนในพื้นที่ ให้คงไว้เป็นตำนานชั่วกาล
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณี สำนักงานก่อสร้างทางที่ 2 กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม มีแผนขยายช่องทางจราจรบนทางหลวงหมายเลข 3 เป็น 6 – 11 ช่องจราจร ระหว่างพื้นที่ อ.สัตหีบ – อ.บ้านฉาง ระยะทาง 10.141 กม. เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 26 ม.ค.62 – 14 พ.ค.64 รวม 840 วัน ซึ่งการขยายช่องทาง ได้ตัดผ่านทับบริเวณจุดที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อแขก “แดนประหารเขาตะแบก” ช่วงโค้งริมถนนสุขุมวิท กม.ที่ 8 ม.1 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีอายุเก่าแก่มาร่วมครึ่งศตวรรษ ด้วยความหวั่นเกรงแรงอาถรรพ์ จึงยังไม่มีผู้ใดกล้ารื้อถอนศาล ทำได้เพียงปรับพื้นที่บริเวณโดยรอบเท่านั้น ปล่อยให้ศาลยังคงตั้งตระหง่านอยู่บนเนินสูงจากระดับพื้นถนนกว่า 3 เมตร ผู้คนชาวสัตหีบที่ขับขี่รถสัญจรผ่านไปมา ยังคงบีบแตรแสดงความเคารพเหมือนเช่นเคย
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้พบกับกลุ่มชาวบ้านเกือบ 10 คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พลูตาหลวงมาแต่กำเนิด อายุรุ่นราวคราวปู่ย่า ที่เกิดทันในช่วงเวลานั้น ได้พากันมาจุดธูปกราบไหว้วิงวอนต่อ ศาลเจ้าพ่อแขก ที่อดีตในปี พ.ศ.2514 บริเวณเชิงเขาใกล้กับจุดตั้งศาล ถูกใช้เป็นแดนประหารยิงเป้า นายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี (เจ้าพ่อแขก) ฆาตกรฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน ด้วยความเฮี้ยนของดวงวิญญาณ ที่ออกมาปรากฏตัวให้ผู้คนได้พบเห็น ทำให้ชาวบ้านได้ตั้งศาลกระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณขึ้นสิงสถิต ให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ พร้อมขนานนามชื่อศาลแห่งนี้ว่า “ศาลเจ้าพ่อแขก” หรือ “ศาลเจ้าพ่อเขาโค้ง” มาจนตราบปัจจุบัน โดยการวิงวอนกราบไหว้ของชาวบ้าน ได้ภาวนาขออย่าให้ศาลอย่าถูกรื้อทิ้ง ขอให้ทางหน่วยงานได้อัญเชิญไปไว้ในสถานที่อันควร เพื่อให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนในพื้นที่ และเป็นตำนานให้เล่าขานสู่คนรุ่นหลังสืบไป
น.ส.อัมพันธ์ คำหอมหวาน อายุ 60 ปี หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ประหารยิงเป้าเจ้าพ่อแขก ได้กล่าวด้วยความสลดหดหู่ใจ เพราะเกรงศาลจะถูกรื้อทิ้ง แต่ก็ทำได้เพียงวิงวอนขอต่อบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ศาลเจ้าพ่อแขกยังคงเป็นที่กราบไหว้ขอพรของคนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามีชาวบ้านมากมาย พากันมาขอพร ขอโชคลาภ บนบานศาลกล่าว จนสำเร็จสำฤทธิ์ผลไปเกือบทุกราย และเชื่อว่า ดวงวิญญาณของเจ้าพ่อแขก มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ผู้ใดลบหลู่ล้วนต้องเจอดี ย้อนกลับมากราบขอขมาเป็นทุกราย
ด้าน น.ส.ตุ๊กตา อายุ 58 ปี อาศัยอยู่ถนนเรียบชายทะเล ตลาดสัตหีบ เปิดเผยว่า เมื่อสมัยตนมีอายุได้ 10 ขวบ ครั้งยังจำความ ได้รู้จักกับพี่แขก (เจ้าพ่อแขก) ซึ่งพี่แขกเป็นคนใจดีในสายตาของชาวบ้าน ชอบซื้อขนมมาแจกผู้เฒ่าผู้แก่ และเด็ก ๆ ในตลาดสัตหีบ โดยเฉพาะช่วงเวลามีฉายหนังกลางแปลงในวัดสัตหีบ ด้วยเหตุนี้ ทำให้พี่แขกเป็นที่รักใคร่ และเป็นพ่อพระในดวงใจของเด็ก และผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้น จนมาถึงวาระสุดท้ายของชีวิตพี่แขก ที่ถูกนำตัวเข้าสู่แดนประหาร ทุกคนต่างพากันไปส่งเสียงร้องเรียกพี่แขก ทำให้ทั่วแดนประหาร กึกก้องระงมไปด้วยเสียงจากความเศร้าโศกเสียใจ จากวันนั้น ร่วมเกือบ 50 ปี ทุกคนที่รักใครพี่แขก ได้จดจำเรื่องราวไม่ลืมเลือน เล่าขานเป็นตำนานจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับ ประวัติพอสังเขปของ “ศาลเจ้าพ่อแขก” หรือ “เจ้าพ่อเขาโค้ง” ตามประวัติกล่าวขานไว้ว่า เรื่องราวที่เป็นตำนานได้เริ่มก่อเกิดขึ้น เมื่อวัน 26 พ.ย.2514 เวลา 01.00 น. นายสมศักดิ์ หรือแขก ขวัญแก้ว อายุ 28 ปี ได้ก่อคดีใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์นายทหารอากาศชาวอเมริกัน ประจำสนามบินอู่ตะเภา บริเวณพื้นที่หมู่ 4 ต.พลูตาหลวง กระทั่ง วันที่ 1 ธ.ค.2514 จอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติ มีคำสั่งตามคำประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ให้ผู้บัญชาการสถานีทหารเรือสัตหีบ เป็นประธานทำการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า บริเวณเชิงเขาตะแบก ห่างจุดก่อเหตุเพียง 1.5 กม. ด้วยเพชฌฆาตสารวัตรทหารเรือ 5 นาย ระดมยิงกระสุนเข้าร่างรวม 25 นัด สิ้นใจทันทีในเวลา 14.18 น.นับเป็นการประหารยิงเป้าครั้งหนึ่งของไทย ที่กระทำท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก ด้วยความเฮี้ยนของดวงวิญญาณ จนเกิดเป็นแรงศรัทธา ในราวปี 2515 – 2516 ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันตั้งศาลให้เป็นที่สิงห์สถิตดวงวิญญาณ ไว้ให้ผู้คนกราบไหว้ขอพร บันดาลโชคลาภ และความสำเร็จ มาตราบทุกวันนี้
