หนุ่มใต้สุดงง! มาเปิดกิจการร้านแอร์ที่จังหวัดชลบุรีนาน 10 กว่าปี จนสร้างหลักปักฐานและแทบไม่ได้กลับบ้าน กับมีพัสดุต้องสงสัยส่งถึงพ่อที่เสียไปแล้วกว่า 5 ปี พอเปิดดูพบเป็นวัสดุคล้ายยาบ้าจำนวนมาก ส่งมาจากกรุงเทพ
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 62 นายฉฤทธิ์ นิลวรรณ อายุ 33 ปี หนุ่มใต้ซึ่งเปิดกิจการร้านติดตั้งแอร์บ้านและแอร์โรงงาน อยู่ที่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 159/178 หมู่ 9 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้เปิดภาพที่หลานส่งมาให้ดูว่า เมื่อวานวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ช่วงสายได้มีรถไปส่งกล่องพัสดุสีน้ำตาลที่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 3 ตำบลวัง อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมระบุชื่อผู้รับ นายเฉลิม นิลาวรรณ ซึ่งเป็นพ่อของตนเอง ที่เสียชีวิตไป 5 ปีแล้ว แต่ที่บ้านปิดล็อกไม่มีใครอยู่ เนื่องจากได้ย้ายลงมาซื้อบ้านใหม่และเปิดกิจการที่จังหวัดชลบุรีนานกว่า 10 ปี แล้ว โดยนานๆประมาณเกือบ 4 เดือน จะพาครอบครัวเดินทางกลับไปพักวันหรือสองวันแล้วก็จะกลับมาเพื่อทำงานต่อ โดยบ้านหลังนั้นจะปิดล็อกไม่มีใครอยู่แต่จะให้หลานสาวที่อยู่กับแฟนให้ช่วยวนไปดูสักอาทิตย์ละ 2 วัน เพื่อดูความเรียบร้อยเท่านั้น
นาย ฉฤทธิ์ เล่าว่า ตนเองได้มาทำงานด้านแอร์ที่จังหวัดชลบุรีนาน 10 ปีกว่าแล้ว ก่อนจะตั้งตัวได้และพาครอบครัวมาอยู่ด้วยกันก็เกือบ 10 ปี เช่นกัน จนซื้อบ้านและเปิดกิจการร้านแอร์เป็นของตนเองได้ จนเมื่อวานนี้ช่วงประมาณ 10 โมงได้ หลานสาวที่อยู่ที่ทางใต้บ้านเกิดของตนเองได้โทรมาบอกว่ามีรถมาส่งพัสดุที่บ้านแต่ไม่มีใครอยู่และล็อกไว้ รถส่งพัสดุจึงได้วิ่งเข้าไปถามบริเวณศาลาที่ชาวบ้านในชุมชนท่าชนะกำลังประชุมกันอยู่ โดยผู้ส่งได้ถามหาชื่อนายเฉลิม ซึ่งเป็นพ่อของตนเองที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 5 ปี
หลานสาวที่ประชุมจึงได้สอบถามว่ามีอะไรก่อนที่คนส่งพัสดุจะแจ้งว่ามีพัสดุเป็นกล่องมาส่งให้นายเฉลิมที่เสียชีวิตไปแล้ว หลานสาวไม่รู้ด้วยความเป็นญาติกันจึงได้เซ็นต์รับไว้ แต่ด้วยกล่องที่ส่งมาผิดปกติและชื่อที่ส่งมาก็เสียชีวิตไปนานแล้ว หลานสาวจึงได้ให้ชาวบ้านพร้อมผู้ใหญ่มาร่วมกันเปิดดู จึงพบว่าภายในเป็นห่อคล้ายลักษณะยาเสพติด ทางผู้ใหญ่จึงได้ประสานไปทางเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และเปิดดูภายในห่อสีเหลืองจึงทราบว่าเป็นยาบ้าจำนวนนับหมื่นเม็ดส่งมาในชื่อผู้เสียชีวิตไปนานแล้ว หลานสาวจึงได้รีบโทรมาแจ้งให้ทางตนเองทราบ
หลังตนเองทราบเรื่องและรายละเอียดเบื้องต้นแล้วจึงได้เดินทางไปที่ สถานีตำรวจภูธรหนองขาม เพื่อลงบันทึกความบริสุทธิ์ใจไว้เป็นหลักฐาน พร้อมจะได้เดินทางพานางสมนึก นิลวรรณ แม่ และครอบครัวไปให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าชนะ อีกครั้งเพื่อความบริสุทธิ์ใจของตนเองและครอบครัว
นาย ฉฤทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองเคยดูแต่ข่าวที่มีการส่งยาบ้านไปตามบ้านที่เจ้าของบ้านไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งมาเจอกับตนเองและครอบครัวทั้งทีพาครอบครัวมาทำกิจการที่นี่นาน 10 กว่าปีแล้ว และพ่อก็เสียไปกว่า 5 ปี แล้ว กลับมีใครไม่รู้ส่งยาเสพติดจำนวนมากมาที่บ้านของตนเอง จึงอยากวอนให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งรัดติดตามตัวผู้ส่งและผู้รับที่ให้ส่งมาที่บ้านของตนเองให้ได้โดยเร็วด้วย เนื่องจากทำให้ครอบครัวของตนเองเสียหายมากและไม่เคยที่จะเข้าไปข้องเกี่ยวเลย แต่กับมาถูกกลุ่มยาเสพติดอาศัยส่งมาแบบนี้
