ที่จ.ชลบุรี ตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าว จับกุม แก๊งตกทอง ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งก่อเหตุมาแล้ว 20 ครั้ง พร้อมเตือนประชาชน ไม่สวมใส่เครื่องประดับมีค่า และให้รู้เท่าทันวิธีที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
สืบเนื่องจากมีขบวนการ “แก๊งตกทอง” ระบาดหนักในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก โดยมีการก่อเหตุในหลายพื้นที่ และ เป็นจำนวนหลายครั้ง ประชาชนได้รับความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้มีการมอบหมาย ดำเนินการสืบสวนจับกุมให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะมีการจัดทีมสืบสวนบูรณาการจับกุมแก๊งค์คนร้ายที่ก่อเหตุตกทองในพื้นที่ภาค 2 จำนวน 20 ครั้ง เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อมั่นและรู้สึกปลอดภัยกับประชาชน
โดยวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนและประสานงานข้อมูลกับพื้นที่ที่เกิดเหตุจนทราบตัวคนร้าย แก๊งค์ตกทอง ที่ก่อเหตุในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 และสามารถจับกุมได้ จำนวน 5 ราย คือ นายสมควร ตรีวิสูตร อายุ 57 ปี , นางสาวภัทรกร ยิ้มยินดี อายุ 32 ปี ,นางสมทรง ตรีวิสูตร อายุ 54 ปี , นางสาวชลธิชา ยิ้มยินดี อายุ 34 ปี , และนายธวัชชัย ริดแขก อายุ 38 ปี
โดยวิธีการกระทำความผิดของแก๊งดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุคนร้ายจะใช้รถกระบะแบบ 4 ประตู สีขาว ซึ่งเป็นรถของนาวสาวแจง โดยมีนายบอย สามีของนางแจง และอีกหนึ่งคน คือ นางรี (ทั้ง 3 ขอสงวนชื่อนามสกุล) ร่วมเดินทางก่อเหตุด้วยทุกครั้ง โดยมักจะเลือกตลาดนัดเป็นสถานที่ดำเนินการ ซึ่งการก่อเหตุแต่ละครั้งคนร้ายจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำ เมื่อพบเหยื่อเดินมาคนเดียวและมีทรัพย์ติดตัว ก่อนทำทีหลอกเหยื่อว่า เก็บกระเป๋าเงินได้ และชวนเหยื่อออกตามหาเจ้าของ ต่อมาเมื่อหากระเป๋าไม่เจอ จะช่วยกันพูดจาหว่านล้อมให้เหยื่อแบ่งทรัพย์สินกัน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อคนร้ายก็จะเอา ทรัพย์สินปลอม หรือทองปลอมมาแอบเปลี่ยน ก่อนพากันหลบหนี
โดยภายหลังจากการจับกุม นางสาวภัสกร และนางสมควร ซึ่งเป็นคนร้ายที่มาก่อเหตุในเขตพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรบ้านฉาง จังหวัดระยอง ได้ให้การรรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยการกระทำความผิดกดังกล่าวเป็นความผิดข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง จำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ทั้งนี้ทางด้านตำรวจภูธรภาค 2 จึงได้มีการขอเตือนประชาชนที่เดินทางไปซื้อขอตามตลาดนัดหรือสถานที่ต่างๆ ให้ระมัดระวัง และไม่สวมใส่เครื่องประดับมีค่า และให้รู้เท่าทันวิธีที่คนร้ายใช้ก่อเหตุด้วย
