ที่จ.ชลบุรี ตร.นำตัวสามีโหดใช้ปืนยิงศรีษะเมียจนเสียชีวิต มาทำแผนประกอบคำสารภาพแต่ถูกไทยมุงรุมประชาฑัณฑ์จนน่วมต้องรีบนำตัวกลับโรงพัก
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีที่นางสาวขนิษฐา โยธาธรรม อายุ 34 ปี ถูกสามีใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศรีษะจนเสียชีวิต ในห้องพักคนงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลหัวถนน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ก.ค.62 ทางตำรวจก็สามารถควบคุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้วคือนายทวีโชค สกรรัมย์ อายุ 31 ปี ที่ด่านช่องเสม็ด พื้นที่ สถานีตำรวจภูธรโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมของกลางปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ทะเบียน คพล 690 ชลบุรี ก่อนนำตัวผู้ต้องหาเดินทางมาดำเนินคดีในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 27 ก.ค. 62 ทาง พ.ต.อ.กฤษนะ วนะบดีนิมิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่าภรรยาสาวเนื่องจากความหึงหวง เนื่องจากผู้ตายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีความลับ โทรศัพท์ก็ไม่สามารถแตะต้องได้และมีผู้ชายมาติดพัน วันเกิดเหตุตนเองได้มีปากมีเสียงกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ประกอบกับเงินที่ทำงานได้ถูกหัก หลังจากตนเองได้ยืมเพื่อนร่วมงานมาจำนวน 300 บาท และถูกหักเงินใช้คืนไปแล้วแฟนสาวก็ยังไม่เลิกด่าทอ
ขณะนั้นตนเองกำลังนั่งกินข้าวในห้องพัก ส่วนนางสาวขนิษฐาอยู่ด้านหลังบ้าน ผู้ตายได้บ่นด่าทอตนเองตลอดเวลา ตนเองได้ลุกขึ้นเดินถือจานข้าวไปด้านหลังบ้าน ผู้ตายก็ไม่เลิกบ่นด่าทอจึงโมโหโยนจานข้าวลงพื้น และเดินเข้าไปหยิบปืนที่เก็บไว้ในกระเป๋า เดินกลับมาจ่อยิง บริเวณขมับซ้าย 1 นัด จนแฟนสาวกระเด็นล้มลงที่พื้น ส่วนตนเองหลังก่อเหตุได้เก็บสัมภาระและนำเอาอาวุธปืนใส่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์แล้วขี่หลบหนีกลับบ้านเกิดที่อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งใจว่าจะมามอบมอบตัวกับตำรวจในพื้นที่ แต่ระหว่างทางมาถูกจับเสียก่อน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบรับคำสารภาพในที่เกิดเหตุ 5 จุดคือห้องพัก จุดที่ลงมือยิง จุดที่ซ่อนอาวุธปืน จุดพบศพ และเส้นทางหลบหนี เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี ก่อนที่จะเกิดเหตุชุลมุนเมื่อมาถึงช่วงทำแผนที่ผู้ต้องหากำลังเดินเอาปืนใส่ใต้เบาะ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตกระโดดถีบชกต่อยผู้ต้องหากันชุลมุน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยห้าม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถกลับสถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
