ที่ จ.ชลบุรี คืบหน้าเรือโป๊ะ 2 ลำ บรรทุกถ่านหินจมหายหน้าเกาะสีชัง ล่าสุด เจ้าท่าแหลมฉบัง เข้าตรวจสอบแล้วไม่พบคราบน้ำมันในจุดเกิดเหตุ พร้อมเตรียมกู้เรือ คาด 1 อาทิตย์กู้ได้
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีที่เรือโป๊ะ จำนวน 2 ลำ คือ พีเอสแอล61(PSL 61) บรรทุกถ่านหิน จำนวน 900 ตัน และ เจบีไอ57(JBI 57) บรรทุกถ่านหิน จำนวน 1,400 ตัน เป็นเรือบรรทุกสินค้าภายในสังกัดของบริษัทพูลสวัสดิ์ จำกัด เจ้าของสินค้าคือบริษัท จัมโบ้บาจส์ จำกัด จมลงใต้ท้องทะเล บริเวณทางทิศเหนือของทะเลเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ที่สำนักงานควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบนายพิทักษ์ วัฒนพงษ์ศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง กล่าวว่า สำหรับในกรณีดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุได้มีพายุพัดเข้าในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทางตนก็ได้มีการแจ้งข่าวสารไปยังผู้ประกอบการเดินเรือ ในเขตพื้นที่ตนแล้ว ให้ระมัดระวัง
ส่วนสาเหตุของเรือโป๊ะ จำนวน 2 ลำ ที่จมลงใต้ท้องทะเลนั้น ทางตนก็ได้มีการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ เรือโป๊ะที่เกิดเหตุแล้ว ทราบว่า ทางเรือบรรทุกถ่านหินดังกล่าว ได้มีการหยุดการดำเนินงานแล้ว แต่ปรากฏว่าเมื่อคลื่นทะเลสูงขึ้น ส่งผลให้เชือกที่มัดระหว่างเรือโป๊ะทั้ง 2 ลำ กับเรือบรรทุกถ่านหิน ได้เกิดขาดออกกัน ด้วยแรงของคลื่นที่ดึง ส่งผลให้น้ำทะเลเริ่มเข้าสู่ตัวเรือโป๊ะ ทางเจ้าหน้าที่ประจำเรือ จึงจำเป็นต้องตัดสินใจ ตัดเชือกเรือโป๊ะทั้ง 2 ลำ ออกจากเรือบรรทุกถ่านหิน เพื่อไม่ให้ดึงเรือจมไปด้วย โชคดีที่เหตุการณ์นี้มีคนงานประจำเรือโป๊ะ ทั้ง 2 ลำ เพียงแค่ 5 คน และทุกคนปลอดภัยดี
นายพิทักษ์ วัฒนพงษ์ศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล เจ้าท่าแหลมฉบัง กล่าวต่อว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ เจ้าท่าแหลมฉบัง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนจากเรือสินค้าต่างประเทศชื่อ M.V. SOUTHAMPTON เข้าดำเนินการตรวจสอบบริเวณผิวน้ำทะเลในบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว ไม่พบคราบน้ำมันหรือสิ่งอันตรายในท้องทะเล ในขณะเดียวกันก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่นักปะดาน้ำลงไปสำรวจใต้ท้องทะเลแล้ว ซึ่งสามารถกำหนดจุดที่เรือโป๊ะจมได้แล้ว
อย่างไรก็ตามในเร็วๆนี้ ทางเจ้าท่า แหลมฉบัง ก็จะมีการเรียกประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดวัน ลงพื้นที่กู้ซากเรือ คาดว่าการกู้ซากเรือ จะใช้เวลาภายใน 1 อาทิตย์ ก็จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ และในส่วนของเรื่องดำเนินคดีกับทางเรือที่เกิดเหตุนั้น ทางเจ้าท่า ชลบุรี จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ หากพบว่าเป็นดำเนินการโดยประมาท เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินคดีโดยทันที
