แม่ร้องลูก 7 ขวบถูกครูตีหัว-แก้ม-ตาบวมช้ำแค่ตอบเลขผิด ผอ.ชี้เคยตักเตือนครูมาแล้ว 2 ครั้ง
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ“J-juneny Nuchnanrt” ได้โพสต์ภาพเด็กผู้หญิงวัยประมาณ 6-7 ปีสภาพใบหน้ามีลักษณะใบหน้าตาทั้ง 2 ข้างบวมแดงศีรษะด้านข้างขวา มีลักษณะบอบช้ำจากภายใน พร้อมระบุข้อความร้องว่า “เพราะบวกเลขช้า นี่คือผล เอาไม้ตีหัวเด็กตรวจเอ็กซเรย์ 2 รอบศีรษะไม่ร้าวแต่ช้ำใน หรือเลือดคั่ง หมอให้ยาแก้ ไปแจ้งความเรียบร้อยว่าจะเอายังไง เรื่องนี้ครูต้องรับผิดชอบไม่ยอมเหมือนกัน โดนขนาดนี้ถ้าไม่เอาเรื่องเด็กคนอื่นจะโดนเหมือนกัน” ปรากฏว่าหลังมีการโพสต์ภาพดังกล่าวมีประชาชนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของครู ที่ดูรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ล่าสุดที่ จ.ชลบุรีแม่ของ ด.ญ.จ๊ะจ๋า เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมาโดยช่วงเย็นขณะไปรับลูกสาวที่โรงเรียนเพื่อพากลับบ้าน ลูกสาวกลับบ่นปวดหัว เลยคิดว่าคงจะเรียนหนักหรือไม่สบาย จึงรีบพากลับบ้านมานอนพัก พอช่วงเย็นน้าของน้องมาเล่นกับน้องเหมือนทุกวัน ปรากฏว่าเมื่อจับที่ศีรษะมีลักษณะคล้ายบวมช้ำขณะที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างและแก้มข้างขวาบวมช้ำจากภายใน จึงรู้สึกตกใจเมื่อสอบถามลูกก็บอกว่าถูกครูทำโทษ ด้วยการใช้ไม้ตีที่ศีรษะหลังตอบคำถามในวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้ จึงได้รีบพาลูกไปพบแพทย์ที่รพ.บางละมุงเพื่อตรวจอาการและเอ็กซเรย์สมองโดยแพทย์ระบุว่าศีรษะไม่แตกร้าว แต่มีอาการช้ำในหรือเลือดคั่งทำให้บวมแดงก่อนให้ยามากินและทาบรรเทา
จากนั้นจึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายหรือไม่ แต่ตนได้แจ้งไปว่าขอไปคุยกับโรงเรียนก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร และวันนี้ก็จะพาลูกไปเอ็กซเรย์สมองอีกครั้งที่รพ.เอกชนและหากพบว่ามีอาการหนักขึ้น ก็จะดำเนินการถึงที่สุดเพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และจากนี้จะไม่พาลูกไปเรียนที่โรงเรียนอีกหากครูคนนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่เช่นเดิม
ด้านยายของเด็กเล่าเสริมว่ารุ่งขึ้นได้พาน้องไปที่โรงเรียนเพื่อขอเข้าพบครูประจำชั้นที่ลงโทษเด็กจึงได้สอบถามและแจ้งอาการของเด็กให้ทราบแต่ก็ได้รับคำตอบเพียง “ขอโทษ” และแจ้งว่าใช้ไม้ตีไม่แรงที่เด็กตอบผิดจึงพาหลานเดินทางกลับบ้านโดยครูประจำชั้นยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่าอยากให้เด็กขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หรือเปล่า
ด้านนางนฤมล อินทะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดเผยว่าหลังทราบเรื่องได้เรียกครูประจำชั้นมาสอบถาม ก็ทราบว่าเป็นการลงโทษที่เด็กตอบผิด แต่ไม่ทราบว่ารุนแรงขนาดไหนและเตรียมเรียกผู้ปกครองมาเจรจาพูดคุยกันในวันทำการกระทั่งมาเห็นภาพของเด็กถูกแพร่ในโลกโซเชียลและเห็นว่ามีอาการบวมแดงหลายจุดรวมทั้งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากจึงได้เดินทางไปเยี่ยมดูอาการของเด็กที่บ้านเพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าจะดำเนินการให้อย่างเป็นธรรมที่สุดซึ่งขณะนี้ได้แจ้งเรื่องไปสำนักการศึกษาเมืองพัทยาเรียบร้อยแล้วเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นเมื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนก็จะต้องย้ายครูไปสำนักการศึกษาเมืองพัทยาก่อน ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริงก็ต้องดำเนินการทางวินัยและรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องของคดีความคงเป็นเรื่องที่จะมาพูดคุยเจรจากันอีกครั้ง โดยที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็เคยว่ากล่าวตักเตือนครูคนดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้งเกี่ยวกับเรื่องการทำโทษนักเรียนที่รุนแรงซึ่งหลังเกิดเหตุแล้วตนได้พยายามติดต่อครูคนดังกล่าวแต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้
