ที่ จ.ชลบุรี เด็กพิการทางสมองถูกข่มขืนซ้ำซาก 3 ครั้ง 3 คนแจ้งความตำรวจคดีไม่คืบ ร้องสื่อหวังให้ความช่วยเหลือ หากไม่มีใครช่วยเหลือได้คงต้องย้ายบ้านหนี
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี อาศัยอยู่บ้านเอื้ออาทร (บ้านเซิด) จ.ชลบุรี ของการเคหะแห่งชาติ กระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หมู่ 3 ต.บ้านเซิด อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ลูกสาวน้องกัส นามสมมุติ อายุ 14 ปี มีความพิการทางสมอง ได้ถูกคนร้ายข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำอีก แจ้งตำรวจไม่มีความคืบหน้า จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน โดยครั้งแรกลูกสาวถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน ที่กรุงเทพฯ และเป็นคดีความอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หลังจากนั้นจึงได้หลบหนีมาอยูที่บ้านการเคหะ คิดว่าจะรอดพ้นจากการถูกข่มขืน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ลูกสาวได้นำขยะไปทิ้งที่บริเวณที่ทิ้งขยะของบ้านเอื้ออาทร ปรากฏว่าได้เจอผู้ชายคนหนึ่ง ใช้มือคลำไปที่บริเวณเอว พร้อมทั้งข่มขู่ให้เข้าไปในอาคารบริเวณที่ทิ้งขยะ และข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.พนัสนิคม แต่ปรากฏว่าตำรวจรับแจ้งความ แต่ไม่มีการสเก็ตใบหน้าของคนร้าย เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี สอบถามตำรวจหลายครั้งก็ไม่คืบหน้าอีก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ได้มีคนร้ายเป็นผู้หญิงและผู้ชาย อายุประมาณ 25-30 ปี ได้เข้ามาเสพยาบ้าภายในบ้าน หลังจากนั้นได้ชักปืนมาจี้ที่ศีรษะ ผู้หญิงได้ถอดกางเกง หลังจากนั้นผู้ชายได้ลงมือข่มขืนอีก คดีที่เกิดล่าสุดยังไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะคดีก่อนยังไม่มีความคืบหน้า ในการที่ตำรวจจะจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนหวังว่าจะให้มีการนำเสนอข่าว เพื่อเร่งรัดตำรวจช่วยจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
น้องกัส ผู้เสียหายกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุล่าสุดนั้นตนได้นั่งดูการ์ตูนอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นได้ออกมานั่งหน้าบ้าน ได้มีผู้หญิงและผู้ชายได้เข้ามาเสพยาบ้าภายในบ้าน และพยายามชักชวนให้เสพด้วย แต่ไม่ยอมเสพ หลังจากนั้นผู้ชายได้เอาปืนมาจี้ที่ศีรษะ บังคับให้นอนหงาน และหญิงสาวได้ถอดกางเกง หลังจากนั้นผู้ชายได้เอาอวัยวะเพศสอดใส่เข้ามา หลังจากเสร็จแล้วก็หลบหนีไป หนูกลัวเหมือนกันแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
ทางด้าน น.ส.พร กล่าวว่า ลูกสาวถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนที่กรุงเทพฯ ไม่นานเท่าไหร่เหมือนกัน เมื่อรู้เรื่องจึงได้เข้าแจ้งความและตำรวจจับกุมพ่อเลี้ยงไปแล้ว คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จึงได้พาลูกหนีมาอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร ก็หวังว่าจะหลบหนีสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับลูกสาว แต่ก็ยังเจออีกเมื่อลูกสาวเอาขยะไปทิ้่ง ถูกชายหนุ่มข่มขู่เอาตัวไปข่มขืนอีก แจ้งความคดีก็ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งล่าสุดมีชายหนุ่ม หญิงสาวเข้ามาในบ้านเอาปืนขู่ลูกสาวและข่มขืนอีก ก็ยังไม่ได้ไปแจ้งความ ที่สำคัญผู้ที่ข่มขืนยังขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่ในบ้านเอื้ออาทร แต่ตำรวจก็ยังไม่ยอมจับกุมตัวคนร้ายอีก ไม่รู้ว่าลูกสาวจะโดนข่มขืนอีกเมื่อไหร่ จึงอยากขอความเป็นธรรม หากช่วยเหลือไม่ได้คงต้องย้ายบ้านหนีอีกเหมือนกัน ยอมรับว่าครอบครัวยากจนหาเช้ากินค่ำ แม้กระทั่งค่าเช่าบ้านเดือนละ 3,500 บาท ยังค้างอยู่เลย
ต่อมานายวินัย พ้นภัยพาล อดีตกำนันตำบลเสม็ดทราบข่าว จึงได้มอบเงินเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 2,000 บาท
