ที่ จ.ชลบุรี แม่น้องภาคิณแจงดราม่าในออนไลน์ เก็บน้องไว้เพราะต้องการจะเอามาเป็นขอทาน ยันลูกใครใครก็รัก ยังไงจะเลี้ยงดูถึงที่สุด แม้หมอจะบอกว่ามีอายุอยู่ได้เพียงปีเดียว ขอบคุณผู้ให้เงินบริจาคเงินช่วย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีคุณแม่ใจแกร่งที่ต้องหยุดงานเพื่อเฝ้าเลี้ยงดูลูกน้อยที่พิการซ้ำซ้อน จนสามีต้องทำงานอย่างหนักโดยไม่หยุดพักเพื่อหารายได้จุนเจือความเป็นอยู่ของครอบครัวและเป็นค่าอ๊อกซิเจนเพื่อต่อลมหายใจบุตรชายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (9 ต.ค.62) ผู้สื่อได้รับการเปิดเผยจากนางอุมาพร สันป่าแก้ว มารดาของน้องภาคิณ วัย 5 เดือน ที่พิการซ้ำซ้อน ได้เปิดเผยข้อมูลในช่วงระหว่างตั้งครรภ์น้องภาคิณ ว่า ตอนแรกก็ไม่ติดว่าน้องจะมีความผิดปกติ เพราะจากการดิ้นในท้องก็มีอาการปกติทั่วไป จนเวลาผ่านไป ได้ไปอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจเพศ แต่คุณหมอได้บอกว่าน้องมีความผิดปกตินะ ในฐานะเป็นแม่ก็ตกใจคิดว่าลูกจะเป็นอะไรมากไหม จนคุณหมอบอกว่ามีอาการปากแหว่ง
ข่าวน่าสนใจ:
เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลชลบุรีเพื่อดูว่ามีอาการจมูกโหว่ด้วยหรือไม่แต่ก็ไม่พบความชัดเจน เพราะน้องอยู่ในท่าคว่ำหน้า อัลตร้าซาวด์จึงมองไม่เห็น คุณหมอจึงแนะนำให้ตรวจน้ำคร่ำเพื่อตรวจหาว่าน้องมีโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นอีกหรือไม่ แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่ได้สัมผัสลูกน้อยในครรภ์หลายเดือน จึงไม่ยอมตรวจ เพราะเกรงว่าจะเป็นข่าวร้ายให้ยุติการตั้งครรภ์ จึงตั้งใจจะเลี้ยงดูน้องต่อไปเท่าที่จะทำได้
คุณแม่น้องภาคิณ ยังเล่าต่อว่าด้วยความไม่มีความรู้ว่ามีโรคอะไรบ้าง จึงคิดว่าน้องอาจเป็นแค่ดาวน์ซินโดรม หรือแค่เอ๋อ แต่ก็ไม่หวั่น ยืนยันที่จะเลี้ยงดูเขา เพราะเขาเป็นลูกของเรา เป็นก้อนเนื้อเล็ก ๆ ที่มีหัวใจ ไม่ใช่ก้อนมะเร็งที่ต้องตัดทิ้ง จนคุณหมอมาบอกว่าน้องเป็นโครโมโซม 13 ซึ่งไม่เคยรู้จักหรือได้ยินโรคนี้มาก่อนที่จะคุณหมอจะอธิบายให้ฟังว่าน้องจะอายุสั้นอยู่ได้แค่ 1 ปี ตอนนั้นคุณแม่ช๊อกไปเลย แต่สุดท้ายก็มีความหวังเพราะมีข้อมูลว่ามีคุณแม่ที่มีลูกที่เป็นโรคแบบเดียวกับน้อง แต่ก็เลี้ยงดูได้จนอายุขวบกว่า จึงตัดสินใจเก็บน้องเอาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
นางอุมาพร คุณแม่ยังเล่าต่อว่ามีปัญหารบกวนใจมากมาย แต่ไม่ท้อ เคยมีคนพูดว่าสาเหตุที่แม่เก็บน้องไว้เพราะต้องการจะเอาน้องมาขอทาน มันอาจกระทบจิตใจบ้าง แต่เรารู้ว่าเราทำเพื่อน้องเลยไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ยังทะนุถนอมเลี้ยงดูจนตัดสินใจเลิกทำงานประจำเพื่อมีเวลาเลี้ยงดูน้องให้เต็มที่ ทั้งนี้ มีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยน้องมามากมาย ทางเมืองพัทยาก็ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดำเนินการเรื่องการใช้เงินให้ ขอยืนยันว่าทุกบาททุกสตางค์จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายให้น้องภาคิณอย่างคุ้มค่าอย่างแน่นอน ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยน้องในเรื่องของค่าใช้จ่ายมา ณ โอกาสนี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: