เพชรบูรณ์-นอภ.หล่มเก่าเผยตั้งคณะอนุกก.ดูแลรีสอร์ทภูทับเบิก หลังเกิดสุญญากาศช่วงก้าวสู่แผนแม่บท แฉเหตุโขกราคา!เจ้าของให้นายทุนเช่ากิจการจนต้องเร่งกอบโกย ส่วนคณะจนท.ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ทถูกร้องเรียนพบ 2 ผู้ดูแลอ้างไม่รู้เรื่อง
วันที่ 5 มกราคม ว่าที่ร้อยเอก อานนท์ เชื้อเล็ก นายอำเภอหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขกรณีนักท่องเที่ยวร้องถูกรีสอร์ทภูทับเปิกโขกราคาว่า หลังจากการเชิญตัวแทนส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจและตัวแทนทางชมรมท่องเที่ยวภูทับเบิก เข้าประชุมปรึกษาหารือเมื่อช่วงบ่ายวานนี้(4 ม.ค.) มีผลสรุปโดยจะมีการตั้งคณะทำงานหรืออนุกรรมการชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้เกี่ยวข้องหลายๆฝ่ายทางภาคราชการและภาคธุรกิจเข้ามาร่วม เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางและมาตรการในการดูแลจัดการการท่องเที่ยวบนภูทับเบิกให้เป็นไปตามหลักสากลทั่วไป และคณะอนุกรรมการยังทำหน้าที่เป็นตัวกลาง เพื่อนำข้อร้องเรียนหรือข้อท้วงติงของนักท่องเที่ยวให้ทางผู้ประกอบการเจ่าของรีสอร์ทนำไปปรับปรุงแก้ไข ก่อนที่จะจะเข้าสู่การดำเนินการตามแผนแม่บท เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศในช่วงนี้ขึ้น
ว่าที่ร้อยเอกอานนท์กล่าวว่า ส่วนรีสอร์ทที่ถูกนักท่องเที่ยวร้องเรียนในเบื้องต้นได้รับคำชี้แจง โดยทางรีสอร์ทที่เกิดปัญหาอ้างว่า ลูกค้านักท่องเที่ยวรายนี้เคยมาพักที่รีสอร์ทหลายครั้ง และครั้งที่เกิดปัญหาขึ้นได้มีการติดต่อมาโดยมีผู้ดูแลเป็นผู้รับโทรศัพท์และแจ้งไปว่าห้องเต็ม แต่นักท่องเที่ยวรายนี้ก็ยังโอนเงินมาให้ทำให้ห้องพักไม่พร้อมให้บริการ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ส่วนกรณีเรื่องรูปห้องพักในเว็บเพจตามที่นักท่องเที่ยวร้องว่าไม่ตรงกับห้องพัก ก็ได้รับคำชี้แจงจากทางรีสอร์ทว่าไม่เคยทำเว็บเพจขึ้นมา และหลังเกิดเหตุแล้วทางรีสอร์ทแห่งนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวรายนี้ จึงอาจมีการสื่อสารไม่เข้าใจตรงกันได้
นายอำเภอหล่มเก่ากล่าวว่า อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนในวันนี้จึงมีการส่งคณะเจ้าหน้าที่ ขึ้นไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่รีสอร์ทที่ถูกร้องเรียนแห่งนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยหากพบว่าทางรีสอร์ทมีการกระทำตามที่นักท่องเที่ยวร้องเรียนจริงๆก็มีมาตรการพิจารณาลงโทษตามความเหมาะสม ทั้งนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก็มีคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคดูแลอยู่ ก็ต้องว่ากันไปตามกฎระเบียบและข้อกฎหมาย
อย่างไรก็ตามสำหรับประเด็นดังกล่าวได้มีแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ระบุว่า นอกจากทางเจ้าของรีสอร์ทฉกฉวยโอกาสเองเพื่อปรับราคาห้องพักจนแพงเกินความจริงแล้ว ก็ยังมีนายทุนซึ่งเป็นคนไทยจากพื้นราบหัวใสไปติดต่อขอเช่าเหมา เพื่อเข้าดูแลกิจกาลทั้งรีสอร์ทตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่หรือตลอดช่วงไฮท์ซีซัน จากนั้นจะอัพราคาห้องพักเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งกอบโกยให้เต็มที่ เพราะเข้าใจดีว่าในช่วงนี้ห้องพักหายากและแพงตามช่วงเทศกาลโดยนักท่องเที่ยวยอมควักกระเป๋าจ่าย ส่วนทางเจ้าของรีสอร์ทเองก็รับเงินก้อนโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงบริหารจัดการให้เหนื่อยแรง ซึ่งคงไม่คาดคิดว่าจะมีผลกระทบตามนี้ จึงตั้งข้อสังเกตว่ารีสอร์ทที่ถูกร้องเรียนจะอยู่ในข่ายนี้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ทราบว่ายังมีรีสอร์ทภูทับเบิกอีกหลายแห่งที่เป็นแบบเดียวกันนี้ ก็ยังกังวลว่ารีสอร์ทที่คนในพื้นที่ทำธุรกิจด้วยความตั้งใจดีจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีผู้จัดทัวร์บางกลุ่มประเภทหัวใสเช่นเดียวกัน โดยมาเหมาเช่าห้องกับเจ้าของรีสอร์ทไว้เพราะรู้ดีว่าห้องพักในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวจะเต็ม จากนั้นนำไปขายให้ลูกทัวร์หรือคนทั่วไปผ่านทางเว็บไซต์หรือเว็บเพจ โดยนักท่องเที่ยวบางรายยอมควักจ่ายโดยไม่สนใจเรื่องราคาเพราะต้องการห้องพัก แต่ภายหลังมาเห็นสภาพห้องรับไม่ได้และการบริการไม่ประทับใจอีกทำให้เกิดปัญหาขึ้น ในขณะที่บางรายเป็นมิจฉาชีพแอบไปเปิดเพจแอบอ้างชื่อรีสอร์ทบนภูทับเบิก พร้อมนำภาพที่ผ่านตกแต่งในมุมที่ดูดีไปนำเสนอ ทำให้มีนักท่องเที่ยวติดต่อจองห้องพักโดยโอนเงินมาไปให้เรียบร้อย แต่ภายหลังจะเข้าพักถูกรีสอร์ทปฏิเสธ กระทั่งความแตกโดยเจ้าของรีสอร์ทไม่รู้เรื่องจนถึงกับต้องจูงมือลูกค้าไปแจ้งความร้องทุกข์ก็มีมาแล้วเช่นกัน
ด้านแหล่งข่าวจากรีสอร์ทภูทับเบิกกล่าวว่า เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ก่อนที่ทางราชการจะจัดระเบียบรีสอร์ทภูทับเบิก ก็มีชาวม้งในพื้นที่บางรายให้นายทุนซึ่งเป็นคนไทยในพื้นราบเช่าที่ดิน โดยแลกเปลี่ยนกับผลตอบแทนเป็นเงินค่าเช่าและบางรายยังได้รับสิ่งปลูกสร้างต่างๆหากหมดสัญญาลง แต่หลังการจัดระเบียบและมีการไล่นายทุนเหล่านี้ลงจากภูทับเบิกแล้ว ต้องเข้าใจว่าชาวม้งเจ้าของที่ดินเหล่านี้ ก็ยังมีสายความสัมพันธ์หรือข้อผูกมัดกับนายทุนอยู่ จึงมีการฉกฉวยโอกาสยื่นมือเข้ามากอบโกยซึ่งเป็นการสมประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายทั้งเจ้าของที่ดินและนายทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุดคณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ทหารจาก ช.พัน 8 และอส.ร้อย อส.หล่มเก่า นำโดยนายสมบัติ จันทร์เชื้อ ปลัดอำเภอหล่มเก่าประจำศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหล่มเก่า เดินทางไปที่รีสอร์ทที่ถูกนักท่องเที่ยวร้องเรียนบนภูทับเบิก จนได้พบกับสองคนงานเฝ้ารีสอร์ทกำลังทำความสะอาดห้อง โดยไม่พบผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ทแต่อย่างใด ซึ่งผู้ดูแลทั้งสองอ้างว่า เจ้าของรีสอร์ทไปทำงานต่างจังหวัดโดยทั้งสองไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ลูกค้ารายนี้มาพัก อย่างไรก็ตามหลังคณะเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบห้องพัก โดยพบว่าห้องพักมีขนาดเล็กและเตียงนอนมีขนาด 5 ฟุต ส่วนสภาพที่นอน,ผ้าห่ม,หมอนไม่ใช่ของใหม่ แต่มีร่องรอยการซักทำความสะอาดเป็นปกติโดยไม่มีกลิ่นเหม็น ในขณะที่น้ำในห้องน้ำไหลตามปกติโดยไหลไม่แรงแต่ก็ไม่ไหลเบาจนเกินไป
ทั้งนี้ยังมีรายงานแจ้งเพิ่มเติมด้วยว่า ทางผู้สื่อข่าวยังพยายามติดต่อนายวันชัย ชยารมณ์ ในฐานะประธานชมรมท่องเที่ยวภูทับเบิก เพื่อขอคำชี้แจงถึงปมปัญหาที่เกิดขึ้นและมาตรการ กติกาในการกำกับดูแลรีสอร์ทด้วยกันเอง แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยเพียงได้รับแจ้งทางสื่อโซเซียลว่า“โทรศัพท์ขัดข้อง”เท่านั้น
