เรื่องจริงที่เกิดขึ้น! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังระบาดในทุกท้องที่ ขณะนี้ผู้เสียหายรายหลายคน (ขอสงวนนาม) ได้ถูกแก๊งมิฉาชีพหลอกลวงหลายประการ เช่น ซื้อสินค้า ไปรับของ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ไปรับสินค้าและเงินทอง ของมีค่า ตามแต่ที่แก๊งมิจฉาชีพจะอ้างไปตามสถานะ ของผู้ที่ ตกเป็นเหยื่อ และยังมีแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอส, ปปส. และหน่วยตรวจสอบ การฟอกเงิน สารพัดที่กลุ่มโจรพวกนี้จะอ้าง และส่วนหนึ่งเหยื่อหลงกล ยอมจ่ายเงินให้ โดยเงินไปเข้าบัญชีนั้นโดยเหยื่อบางคนโอนไปเป็นเงิน ถึง 600,000 บาทแต่รับสิินค้าไม่ได้ และ คดีหนึ่งที่เกิดมีการหลอกลวงให้โอนเงินเนื่องจากว่า มีการส่งเงินมาจากต่างประเทศ ขอให้ รีบไปจ่ายเงินค่าภาษีที่ ด่านตม. ซึ่งคดีนี้ผู้เสียหายได้โอนเงิน เข้าบัญชีนางภัสสร ศรีสังข์บุญ หมายเลขบัญชี 622327517 ธนาคารไทยพาณิชย์
โดยเหยื่อได้โอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพสาขาบิ๊กซีหล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังจากโอนเงินเข้าไปจำนวนเงินหลายหมื่นบาทแล้ว ผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าตามที่แจ้งไว้แต่อย่างใด จึงรู้ภายหลังว่าถูกหลอกผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนฝ่ายคดีอาญา ไว้ที่ สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดย ร.ต.อ. พิชิต บุญหลาย เป็นพนักงานสอบสวน เมื่อเวลา 12.00 น วันที่ 16 ตุลาคม 2560 เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของหมายเลขบัญชีดังกล่าว
หลังได้รับแจ้งทางพนักงานสอบสวนได้ ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฏร์ทราบว่านางภัสสร ศรีสังข์บุญ อยู่บ้านเลขที่ 136 ถนนเดชอุดม ต.ในเมือง จ. นครราชสีมา จึงได้ออกหมายเรียกไปยังนางภัสสร เพื่อให้มาพบพนักงานฯและให้ปากคำในคดีฉ้อโกงตามที่เหยื่อได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ แต่ปรากฏว่า นางภัสสรไม่ได้มาพบพนักงานสอบ สอนในวันเวลาที่นัดหมาย ต่อมาได้มีบุคคลอ้างเป็นทนายความนางปภัสสรโทรติดต่อประสานงานกับพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสักว่า นางปภัสสรจะมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกในภายหลัง พร้อมอ้างว่าลูกความตนแจ้งว่าไม่ได้เป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าว โดยอ้างด้วยว่าบัตรประจำตัวประชาชนของนางภัสสรสูญหายไปและปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมยังระบุอีกว่ามีบุคคลอื่นได้นำบัตรประชาชนนางภัสสรไปเปิดบัญชี ที่ธนาคารไทยพาญิชย์ สาขาสุไหงโกลก
กระทั่งต่อมาทางพนักงานสอบสวนจึงได้มีการประสานไปยังธนาคารฯที่สาขาสุไหงโกลก โดยพบว่ามีการเปิดบัญชีชื่อนางปภัสสรจริง และจากการสืบสวนมีการตรวจสอบบัญชีเงินฝากมีเงินหมุนเวียนเข้าออกหลายล้านบาทจึงมีการร้องเรียนไปยังธนาคารสำนักงานใหญ่ที่ กทม. ทำให้มีการทางฝ่ายตรวจสอบลงมาตรวจอบข้อเท็จจริง ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุไหงโกลก กระทั่งพบหลักฐานมีบัญชีชื่อนางภัสสร ศรีสังข์บุญจริง พบว่าโดยมีผู้นำบัตรประชาชนนางภัสสรจึงรวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ. ปรีชา พลชา พนักงานสอบสวนฝ่ายคดี อาญา ที่ สภ. สุไหงโกลก ไว้ และได้อายัดเงินของบัญชีไว้ก่อน เกิดเหตุที่ อ. หล่ม สักและได้ตั้งข้อหากับนางวสุธร มิ่งขวัญ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/5 หมู่1 ต.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เป็นผู้ที่นำบัตรประชาชนบุคคลอื่นมาเปิดปัญชีไว้ และได้ตั้งข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ใช้เอกสารเอาไปซึ่งของผู้อื่น
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อฝ่ายตรวจสอบของทางธนาคารไทยพาณิชย์ที่ลงมาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาญิชย์ เนื่องจากรับเปิดบัญชีโดยบัตรประชาชนของบุคลอื่นได้ สรุปผลลงแล้วให้เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุไหงโกลก ส่วนบุคลที่นำบัตรประชาชนของนางภัสสรเป็นหน้าที่ของร้อยเวร สภ. สุไหงโกลก เป็นผู้นำเดินการตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับคดีนี้แหล่งข่าวทางฝ่ายสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่า จากพยานหลักฐานที่รวบรวมทั้งหมดบ่งชี้ว่า พฤติกรรมของกลุ่มคนเหล่านี้ มีการกระทำกันเป็นขบวนการและการดำเนินการในแต่ละขั้นตอน พยายามจะตัดตอนไปเป็นคนอื่นรับช่วงต่อ และยังพยายามสร้างหลักฐานว่าตัวเองไม่รู้ไม่เห็น แต่ทั้งนี้ยังมีพิรุธและทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้ จึงฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ ควรมีสติ รอบคอบ ไม่โลภและให้สงสัยไว้ก่อน หรือยอมเสียเวลาสอบถามไปยังต้นหน่วยงานหรือสังกัดที่ถูกอ้างก่อนก็จะเป็นการดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: