จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 17-20 ปี ทำทีเข้ามากราบไหว้ขอพรพระอาจารย์โหพัฒน์ ที่โรงเจเข่งซิ่วตั๊ว ตำบลท่าเรือ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะทำทีเดินไปขอพรตามจุดต่างๆ ในศาลเจ้าเพื่อดูว่ามีเจ้าหน้าอยู่หรือไม่ แล้วอาศัยจังหวะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ได้แอบหยิบเงินจากบาตรที่วางอยู่ในห้องที่ตั้งสังขารของพระอาจารย์โหพัฒน์ไป ก่อนจะออกมายกเอาตู้บริจาคที่วางอยู่หน้าห้องหลบหนีไปด้วยล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพบกับนายเอกชัย โอภากุลวงษ์ ผู้ตรวจตราศาลเจ้าโรงเจเข่งซิ่วตั๊ว ท่าเรือ(ผู้จัดการโรงเจเข่งซิ่วตั๊วท่าเรือ) หรือ สท.ป่อง ได้พาเดินดูจุดที่คนร้ายแอบเข้ามาขโมยตู้บริจาค พร้อมกับบอกว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 14 มิถุนายน ได้มีชายอายุประมาณ 17-20 ปี ทำทีเข้ามากราบไหว้ขอพรพระอาจารย์โหพัฒน์ในโรงเจเข่งซิ่วตั๊ว จากนั้นได้เดินเข้ามาคุยกับเจ้าหน้าที่ถามถึงขั้นตอนของการไหว้ขอพรว่าต้องทำอย่างไร ก่อนจะเดินไปตามจุดต่างๆของโรงเจคาดว่าน่าจะมาดูว่ามีทรัพย์สินตรงไหนบ้าง ก่อนจะเดินออกไปจากโรงเจจากนั้นอีก 2 ชั่วโมงต่อมาชายคนดังกล่าวได้ย้อนกลับมาอีกครั้งแต่ในรอบนี้ได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ห่างจากตัวโรงเจแล้วปีนข้ามกำแพงหน้าโรงเจเข้ามา ทั้งที่ประตูด้านหน้าก็ไม่ได้ปิดไว้ ก่อนจะเดินแอบเข้ามาทางด้านข้างของโรงเจที่กำลังมีการก่อสร้างอยู่แล้วเดินเข้าไปส่องดูตามห้องต่างๆ ซึ่งห้องที่ส่องดูได้มีการล็อคแม่กุญแจไว้ ทำให้ร้ายไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ จากนั้นคนร้ายได้เดินมาแอบที่ข้างห้องที่ตั้งสังขารของพระอาจารย์โหพัฒน์ จุดนี้จะมีตู้รับบริจาควางอยู่ด้านหน้าซึ่งคนร้ายได้เข้ามาหยิบธูปทำทีเป็นไหว้ขอพรพระอาจารย์โหพัฒน์ ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่หยิบเอาเงินในบาตรที่ตั้งอยู่ในห้องไป จากนั้นได้ออกมายกเอาตู้บริจาคที่วางอยู่ข้างหน้าไปด้วย ซึ่งคนร้ายได้เดินย้อนกลับทางเดิมก่อนจะปีนข้ามกำแพงด้านหลังหลบหนีไป ซึ่งในตู้บริจาคที่คนร้ายเอาไปน่าจะมีเงินอยู่หลายพันต่อมาได้มีชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงกับโรงเจได้แจ้งมาว่าพบตู้บริจาคที่คนร้ายได้เอาไปโยนทิ้งน้ำไว้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเจ พบว่าคนร้ายได้ทำการงัดเอาเงินในตู้บริจาคไป ซึ่งเบื้องต้นได้ไปแจ้งความไว้แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าพอจะทราบตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ โรงเจเข่งซิ่วตั๊ว มีสรีระสังขารของพระอาจารย์โหพัฒน์ เป็นพระผู้มีตาทิพย์และบารมีร่างกายไม่เน่าเปื่อย เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนตำบลท่าเรือ และชาวจังหวัดกาญจนบุรี พระอาจารย์โหพัฒน์ได้มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ. 2493 ด้วยอายุเพียง 46 ปี โดยท่านบวชเรียนทั้งสิ้น 34 พรรษา และได้มีการเก็บศพของท่านไว้ 3 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2496 ซึ่งถึงกำหนดที่จะฌาปนกิจจึงได้ทำพิธีเปิดโลงออกมา ปรากฏว่าร่างของท่านไม่เน่าเปื่อยมองดูเหมือนกับยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านและลูกศิษย์จึงได้นำร่างของท่านมาทำการลงรักปิดทอง และทำพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ที่โรงเจเข่งซิ่วตั๊ว หรือที่ชาวบ้านมักเรียกว่าโรงเจท่าเรือ เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของสาธุชนสืบไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: