X

สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี แนะนำประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประจำปี 2566 ควบคู่กับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดกาญจนบุรี หลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น อีกทั้งช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนเป็นปัจจัยเอื้อทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 11-17 มิถุนายน 2566 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 674 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 มิถุนายน 2566 จำนวน 6,832 ราย กำลังรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 75 ราย (เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง 25 ราย สีส้มและสีแดง จำนวน 25 และ 12 ราย ตามลำดับ) มีผู้เสียชีวิตสะสม จำนวน 16 ราย สถานการณ์การใช้เตียง มีเตียงทั้งหมด 186 เตียง ใช้งาน 75 เตียง เตียงว่าง 111 เตียง ปัจจัยเสี่ยงของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและกลุ่ม608 มาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโรคโควิด-19 ประจำปี 2566 ควบคู่กับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ หากป่วยจะช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้คำแนะนำการป้องกันโรคโควิด-19 ควรสังเกตอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ หากมีอาการป่วยให้ตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยควรหลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นโดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี จะช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ สวมหน้ากากในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อร่วมกิจกรรมในสถานที่ที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก ตรวจ ATK เมื่อป่วยมีอาการทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ หากผลเป็นบวก ให้สวมหน้ากากเมื่อใกล้ชิดผู้อื่น หลีกเลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 สถานที่มีคนจำนวนมาก หากอาการมากขึ้น เช่นเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด กรณีที่มีสมาชิกครอบครัว เพื่อน/เพื่อนนักเรียน/เพื่อนร่วมงานที่ตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคการฉีดวัคซีนโควิด 19 ยังมีความจำเป็นในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งวัคซีนยังเป็นมาตรการเร่งด่วนสำหรับผู้สูงอายุ จะช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ขอความร่วมมือประชาชนให้พาผู้สูงอายุในบ้านไปฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์การฉีดวัคซีนประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2566 และหากลูกหลานป่วยมีอาการทางเดินหายใจ ต้องไม่เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดผู้สูงอายุ หรือหากจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อช่วยลดความเสี่ยงการนำเชื้อไปแพร่ให้ผู้สูงอายุ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้เห็นชอบให้บริการวัคซีนโควิด 19 ประจำปี เริ่มปี 2566 เป็นปีแรก ฉีดปีละ 1 เข็ม แนะนำช่วงก่อนฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงระบาดมากพร้อมฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ควบคู่ หรือห่างกันได้ไม่มีระยะกำหนด ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง สำหรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประจำปี 2566 บริการฉีดกลุ่มเสี่ยงหวัดใหญ่ (กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข กลุ่มเสี่ยงในเรือนจำ และประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ประกอบด้วยหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี ผู้มีโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจหลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และบุคคลโรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)ส่วนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยังให้บริการฟรีเหมือนเดิม ประชาชนสามารถมารับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อยกระตุ้นปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถรับวัคซีนทั้ง 2 ชนิดพร้อมกันได้ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง แต่หากไม่ได้ฉีดพร้อมกันสามารถฉีดเมื่อไรก็ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงระยะห่าง จึงขอเชิญชวนประชาชนมารับวัคซีนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะกลุ่ม 608 กลุ่มเสี่ยงการสัมผัส/แพร่เชื้อ คือ อาชีพที่ต้องสัมผัสคนจำนวนมาก หรืออยู่ในสถานที่แออัด เช่น ทัณฑสถาน เป็นต้น รวมถึงกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และ อสม. เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประจำปีได้ตามความสมัครใจ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน