40 กว่าปีที่ตามหาแม่ที่พลัดพราก พบกันอีกครั้งโผกอดทั้งน้ำตา

(17 ส.ค.66) จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อรายหนึ่งโพสต์ภาพญาติชรารายหนึ่งพร้อมกับระบุข้อความว่า หนูขอความช่วยเหลือให้ยายคนนี้ เขาอยู่ทางชลประทานฝั่งซ้ายฝั่งโรงเรียนอนุชน เขาไม่มีญาติเลยไม่มีบัตรประชาชนขาหักข้างหนึ่งต้องใช้ไม้ประคองตัวเอง สิ้นเดือนนี้ยายบอกว่าเจ้าของที่จะให้ยายย้ายออกยายไม่มีที่ไปไม่รู้จะไปอยู่ไหนวอนหน่วยงานที่ผ่านมาเห็นโพสต์นี้เข้ามาหาเจอช่วยยายด้วยเถอะสงสารยายชื่อยายพิมพ์ ยายไม่มีโทรศัพท์ ใครเห็นช่วยแชร์หน่อยถือว่าเป็นสะพานบุญนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีทราบเรื่อง จึงได้สั่งการให้นายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา ให้รีบลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วย นางสาวปุญยวีย์ โพธิพิพิธ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม เข้าช่วยเหลือยายพิมพ์อายุ 73 ปี อย่างเร่งด่วนโดยทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของยายพิมพ์ ตั้งอยู่บริเวณถนนชลประทานฝั่งซ้าย บ้านดงละมุด เขตเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี สภาพบ้านเป็นกระต๊อบชั้นเดียวหลังเล็กๆ ตั้งอยู่หลังโรงเรียนอนุชล ภายในบ้านพบกับยายพิมพ์ อายุ 73 ปี อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง พบว่ายายพิมพ์เคยประสบอุบัติเหตุจนขาหัก 1 ข้าง เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว โดยยายพิมพ์มีแค่เพื่อนที่คอยดูแลหาข้าวหาน้ำให้กินเพียงเท่านั้นยายพิมพ์ เล่าว่า ตนเองออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี ตอนนั้นมีลูกกับแฟน 4 คน จึงตัดสินใจมากับเพื่อนเดินทางจากจังหวัดนครพนมเพื่อมาหางานทำ ตอนนั้นคนทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟโต๊ะจีนที่กรุงเทพฯ ทำได้ประมาณ 30 ถึง 40 ปี จากนั้นจึงได้มาอยู่กับเพื่อนที่ ตำบลท่าเรือ จังหวัดกาญจนบุรี และก็ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟโต๊ะจีนเหมือนเดิม จนเมื่อไม่นานนี้เกิดอุบัติเหตุถูกรถชน หลังจากนั้นไม่สามารถทำงานได้ต้องใช้ที่ค้ำสามขาเดิน โดยมีเพื่อนบ้านคอยดูแลให้ข้าวกินมาตลอดหลังจากได้รับฟังเรื่องที่ยายพิมพ์เล่ามาทั้งหมด แล้วทาง กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่นจึงได้ทำการค้นประวัติจนพบว่ายายพิมพ์มีลูกสี่คนจริง เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามติดต่อไปยัง ลูกสาวคนที่สามซึ่งอาศัยอยู่ที่จังหวัดสกลนคร เจ้าหน้าที่จึงได้โทรติดต่อพูดคุยลูกสาวยายพิมพ์ ก่อนจะแจ้งให้ทราบว่ายายพิมพ์ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากพูดคุยแล้ว ยายพิมพ์น้ำตาไหลออกมาแสดงความดีใจที่สามารถติดต่อลูกสาวได้ และลูกสาวจะเดินทางมารับตัวยายพิมพ์กลับไปอยู่ด้วยที่จังหวัดสกลนครต่อมาลูกสาวทั้ง 2 ของยายพิมพ์ ได้เดินทางมาจากจังหวัดสกลนครด้วยรถตู้ เพื่อมารับตัวยายพิมพ์กลับไปอาศัยอยู่ด้วย เมื่อทั้งสองพบกับยายพิมพ์ถึงกับร้องไห้ โดยลูกทั้งสองได้โผเข้ากอดยายพิมพ์ด้วยความดีใจที่ไม่ได้เจอกันกว่า 40 ปี พร้อมกับถามสารทุกข์สุกดิบของยายพิมพ์ ซึ่งเป็นภาพที่เรียกน้ำตาให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมากโดยลูกสาวทั้งสองของยายพิมพ์ บอกว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้พบกับแม่อีกครั้งหนึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนคิดเสมอว่าแม่อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว เพราะแม่ไม่เคยติดต่อมาเลย และตนไม่รู้จะไปตามหาแม่ที่ไหน แต่พอมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าพบแม่แล้ว ตอนนั้นตนเองดีใจมาก จึงรีบขับรถจากจังหวัดสกลนครเพื่อมารับตัวแม่กลับไปอยู่ด้วยที่บ้านและจะดูแลแม่เป็นอย่างดี ก็อยากจะขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจนทำให้ตนและพี่สาวนั้นได้พบกับแม่ที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 40 ปี