ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสคลิปวีดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะคนร้ายเป็นชาย แต่งกายโดยใส่กางเกงในตัวเดียว สวมเสื้อแขนยาวสีดำและใส่หมวกแบบมีปีกปกปิดใบหน้า ปีนกำแพงเข้ามาภายในบ้าน ก่อนจะเดินสำรวจอย่างใจเย็น จากนั้น เดินอ้อมไปที่ด้านหลังบ้านและตรงเข้าไปหยิบเอาชุดชั้นในนับสิบตัวที่แขวนเอาไว้บนราวตากผ้า ก่อนจะเดินกลับออกไปทางเดิมและปีนกำแพงกลับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจทรัพย์สินมีค่าอื่นแต่อย่างใด
วันที่ 4 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้โพสคลิป พร้อมพูดคุยกับคุณแบ๊งค์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นสามีของหญิงสาวผู้โพสคลิป ซึ่งได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ภายในคลิป ซึ่งในช่วงดังกล่าว ตนเองและแฟนสาวเดินทางกลับบ้านเกิดที่ภาคเหนือ จึงไม่มีคนอยู่บ้าน กระทั่ง เมื่อกลับมาถึงบ้านจึงพบว่าชุดชั้นในที่ตากไว้ที่ราวผ้าด้านหลังบ้านถูกขโมยไปจนหมด เมื่อเปิดกล้องวงจรปิดดู จึงพบว่า มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยชุดชั้นในดังกล่าวไป แต่ที่แปลกก็คือ คนร้ายรายนี้ไม่สนใจทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นเลย กลับเลือกเข้ามาขโมยเพียงชุดชั้นในและกลับออกไปทันที ขณะที่เมื่อตนและแฟนสาว มานั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็สังเกตได้ว่า สาเหตุที่คนร้ายรายนี้มีลักษณะคล้ายพุงโต เนื่องมาจากคนร้ายได้ใช้ผ้ามาผูกที่บริเวณหน้าท้องเพื่อใช้ใส่ชุดชั้นในที่ขโมยมาจากบ้านหลังอื่นด้วย
คุณแบ๊งค์ยังได้กล่าวอีกว่า บ้านของตน ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยชุดชั้นในแล้วถึง 3 ครั้ง ในช่วงเวลาเพียงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยครั้งแรกเกิดเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งตอนนั้น ตนยังไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด ส่วนครั้งที่สอง เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งตนติดกล้องวงจรปิดแล้ว แต่คนร้ายก็ยังเข้ามาก่อเหตุ ตนจึงตัดสินใจติดกล้องเพิ่มอีกเพื่อหวังให้คนร้ายเกิดความกลัวไม่กล้าเข้ามาก่อเหตุ แต่สุดท้าย คนร้ายก็ยังเข้ามาก่อเหตุอีกเหมือนเคย ซึ่งหลังเกิดเหตุทุกครั้ง ตนก็นำภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ตนจึงทำได้เพียงหาแนวทางป้องกันเพิ่ม ทั้งการติดกล้องวงจรปิดและหาทางทำกำแพงรั้วให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตามตนก็อยากให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพราะคนร้ายก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนเกรงว่าหากคนร้ายย่ามใจ อาจจะเข้ามาก่อเหตุและทำอันตรายกับคนในบ้านของตนได้.
