วันที่ 9 มกราคม 2566 ชาวบ้านหมู่ 9 ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 150 หลังคาเรือน ที่ได้รับผลกระทบออกมาร้องขอให้หน่วยงานช่วยแก้ไขปัญหาให้ หลังดอกธูปที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของเอกชนในละแวกใกล้เคียงที่ปลิวมาตามลมลอยเข้าบ้านเรือน ติดเสื้อผ้าและข้าวของอื่นๆ รวมไปถึงส่งผลให้คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ใช้ชีวิตลำบาก
โดยบริเวณจุดที่ต้นธูปฤาษีขึ้นนั้นเป็นพื้นที่ของเอกชนที่รกร้างไม่มีการทำเกษตรกรรมแต่อย่างใด จึงทำให้ต้นธูปฤาษีเติบโตเต็มพื้นที่กว่า 50 ไร่ เมื่อถึงช่วงเวลาที่มีลมพัดก็จะพัดดอกลอยไปในบ้านเรือนของชาวบ้านจนสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกนี้กันอย่างมาก รวมไปถึงยังส่งผลให้กับคนที่มีโรคประจำตัวเช่นภูมิแพ้อีกด้วย อีกทั้งเวลาอยู่บ้านก็ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และเวลากินข้าวก็ต้องกินในบ้านปิดหน้าต่างประตูให้มิดชิด เพราะดอกธูปจะลอยเข้าปากเข้าจมูกได้ โดยทางชาวบ้านได้นำเสื้อออกมาให้ดูพบว่ามีดอกของต้นธูปฤาษีติดเต็มไปหมด
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกนี้ เล่าว่า ตอนนี้ได้รับเดือดร้อนจากดอกธูปที่ขึ้นอยู่ในที่ดินระแวกใกล้เคียงลอยตามลมมาเกาะกับเสื้อที่ตากไว้นอกบ้าน จนต้องทิ้งเสื้อไปหลายตัวเพราะไม่สามารถนำมาสวมใส่ได้เพราะจะทำให้คันมาก เมื่อนำเสื้อไปซักจะด้วยวิธีไหนก็ไม่สามารถนำดอกธูปออกได้เพราะเกสรมันปักเข้าไปในเนื้อผ้า ซึ่งดอกธูปนี้มันขึ้นอยู่ในที่ดินของคนอื่นซึ่งเป็นที่ดินเปล่ารกร้าง และทุกๆปีชาวบ้านในระแวกนี้ก็ได้รับผลกระทบหลายหลังคาเรือน
ต่อมาวันเดียวกันนางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นายอำเภอท่ามะกา ทราบเรื่อง จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยนายอำเภอได้สั่งการให้ทางหน่วยงานในพื้นที่ส่งหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของที่ดินดังกล่าวให้เข้ามาทำการแก้ไขต่อไป.
