วันที่ 22 มกราคม 2567 เวลา 12.00 น. ทางกลุ่มเป็นหนึ่งนำโดยนางสาวชลิดา พะละมาตย์ (พี่อ้อ) ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง และนางสาวชญาภา ประกอบผล (พี่กี้) รองประธานกลุ่มเป็นหนึ่งและเจ้าหน้าที่ พมจ.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมวางแผนช่วยเหลือนักเรียนหญิง ม.6 ที่ถูกลุงเขยล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมตรวจสอบเรื่องราวข้อเท็จจริงทั้งหมดกับเหตุการณ์ที่นักเรียนหญิงร้องขอความช่วยเหลือมา ที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี ชั้น 1
โดยนักเรียนหญิงคนดังกล่าวให้ข้อมูลกับทางเพจเป็นหนึ่งว่า ตั้งแต่จำความได้ลุงเขยก็เริ่มที่จะจับเนื้อต้องตัวตนเอง เเต่ยังไม่ทำอะไรมากมายเป็นแบบนี้มาตลอดเกือบทุกวัน วันไหนที่ตนขัดขืนก็จะมีโดนทำร้ายร่างกาย โดนตบโดนตี แต่พอตนอยู่ช่วง ม.3 กำลังจะขึ้น ม.4 เป็นครั้งแรกที่เขาทำล่วงละเมิดได้สำเร็จ เพราะตอนนั้นตนสู้แต่สู้ไม่ได้ลุงเขยล็อคแขนล็อคขาตนไว้ พอทำเสร็จแล้วลุงเขยก็บอกว่าถ้าพลาดท้อง เขาจะโยนความผิดให้กับคนที่ตนจะคบหาในเวลานั้น พอหลังจากนั้นเขาก็เริ่มจะทำอีก แต่รอบหลังเหมือนเขาจะวางใจมาตลอดว่าทำได้ครั้งนึงเเล้วครั้งต่อไปก็คงจะทำได้ เขาไม่ล็อคขาตน ล็อคแต่เเขนตนเลยดิ้นๆ แล้วก็ถีบเขาออกแล้วตนก็วิ่งหนีไปนั่งข้างนอกบ้านบ้าง บางทีก็หลบที่ห้องน้ำ
เด็กนักเรียนหญิงให้ข้อมูลต่อว่า เมื่อต้นเทอมหนึ่งของ ม.6 ตนได้แจ้งทางครูที่ปรึกษาแล้วครูที่ปรึกษาก็พาไปคุยกับครูฝ่ายปกครอง มีการให้เยี่ยมบ้านตนเพื่อมาดูลาดเลา หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบๆไป จนมาวันนี้ ตนทนอยู่กับการคุกคามของลุงเขยต่อไปไม่ไหว อยากให้กฎหมายลงโทษเขาตนมีคลิปล่าสุด ที่เขาเข้ามาลวนลามตนถ่ายไว้วันที่ 20 มกราคม 2567 ในคลิปมันมีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ก็คือคำว่า “ไม่เข้า” ก่อนหน้านี้เขาบอกให้ตนเปิดเข้าเฟซบุ๊กจะเช็คโทรศัพท์ตนก็เลยบอกไม่เข้าเเล้วก็โวยวายนิดหน่อยแบบในคลิป หลังจากนั้นก็ตามคลิป
ต่อมาทางกลุ่มเป็นหนึ่งพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พานางสาวบี (นามสมมุติ) เด็กหญิงผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าม่วง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมด้วยกลุ่มเป็นหนึ่ง ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านของลุงเขยที่ก่อเหตุลวนลามหลานตนเอง ในพื้นที่ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวลงเขยขึ้นรถ เพื่อมาสอบปากคำที่โรงพักทันที
เมื่อมาถึงโรงพักทางกลุ่มเป็นหนึ่ง ได้เข้าไปพูดคุยกับทางลุงเขย ทำไมถึงได้กระทำการลวนลามหลานสาวตัวเองเช่นนั้น โดยทางลูกเขยก็ยังปากแข็งปฏิเสธอยู่ว่าไม่ได้ทำ แต่เมื่อทางกลุ่มเป็นหนึ่งเอาคลิปให้ดูลุงเขยถึงกลับพูดไม่ออกได้แต่นิ่งไป และบอกที่ทำไปรักหลานเหมือนลูกแท้ๆ
ทางด้านนางสาวชลิดา พะละมาตย์ (พี่อ้อ) ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องกับคนสนิทของน้อง หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยกับน้อง ซึ่งตัวน้องเองก็มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและคลิปเสียง ที่ลุงเขยลวนลาม อีกทั้งน้องยังถูกลุงเขย ล่วงละเมิดทางเพศมาโดยตลอดและถูกล่วงละเมิดจนสำเร็จอีก 1 ครั้ง จนน้องได้รวบรวมความกล้าแล้วออกมาร้องขอความช่วยเหลือกับทางกลุ่มเป็นหนึ่ง หลังรับเรื่องทางกลุ่มเป็นหนึ่งก็ได้ประสานทางเจ้าหน้าที่และลงพื้นที่ช่วยเหลือในวันนี้
นางสาวชลิดา บอกอีกว่า โดยน้องผู้เสียหายนั้นยังถูกลุงเขยข่มขู่ด้วยว่าถ้าจะไปแจ้งความก็ไปแจ้งได้เลยเพราะว่าตนเองรู้จักกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับคลิปที่น้องถ่ายได้นี่ก็เป็นหลักฐานที่สำคัญที่จะใช้มัดตัวลุงเขย ซึ่งก่อนหน้านั้นลุงเขยก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเพราะรักหลานเหมือนลูก แต่เมื่อเห็นคลิปแล้วก็พูดไม่ออก เพราะจำนวนด้วยหลักฐาน เพราะสิ่งที่ลุงเขยทำเป็นการกระทำแบบชู้สาว หลังจากนี้ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ พมจ. นำตัวน้องไปดูแลเพราะว่าน้องใกล้จะเรียนจบแล้ว ในส่วนของคดีก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป.
