X

ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี ทหาร ปกครอง ร่วมกันจับกุมแรงงานต่างด้าวจำนวน 73 คน พร้อมผู้ติดตาม 4 คน เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุน

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. , พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.,พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล. , พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. ,พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. สั่งการให้ ร.ต.อ.อำนาจ  สีนวล ร.ต.อ.พินัย บุญรัตน์ รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. , ร.ต.ท.กุศล ยะฟั้น รอง สว.(ป.)ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. , ด.ต.สุรศักดิ์ จิตมณีผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. สนธิกำลังร่วมกับ สภ.ทองผาภูมิ , ตชด.ที่135 , ตม.จว.กาญจนบุรี , กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี , กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 ,
ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ค่ายสุรสีห์ , ฝ่ายปกครองอำเภอทองผาภูมิ นำกำลังเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวจำนวน 73 คน ผู้ติดตามจำนวน 4 คน ภายในสวนยางพารา บ้านขนุนคลี่ ซอย 4  ม.4 ต.ท่าขนุน  อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมตรวจยึดของกลาง

1.รถยนต์กระบะคอก ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน

2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน

3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน

4.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน เพชรบุรี จำนวน 1 คัน

5.อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก

6.แม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน

7.กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 22 นัด ( บรรจุอยู่ภายในแม็กาซีน จำนวนแม็กละ 11 นัด )

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดสกัด
เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวและป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดในระหว่างออกตรวจไปถึงบริเวณภายในสวนยางพารา บ้านขนุนคลี่ ซอย 4 ม.4 ต.ท่าขนุน ได้พบรถยนต์กระบะคอก ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ค สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร , รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน กาญจนบุรี , รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน กาญจนบุรี , รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน เพชรบุรี จอดอยู่และเห็นกลุ่มคนลักษณะคล้ายกลุ่มแรงงานต่างด้าวกำลังเดินขึ้นรถยนต์กระบะคอก

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเกรงว่าอาจจะเป็นการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้พบเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ได้พยายามที่วิ่งจะหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวิ่งติดตามไปในทันที จึงสามารถควบคุมตัวกลุ่มคนดังกล่าวไว้ได้ทัน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้

จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 73 คน
( เป็นชายจำนวน 55 คน และ หญิงจำนวน 18 คน ) และผู้ติดตาม จำนวน 4 คน(เป็นชาย จำนวน 4 คน) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขอตรวจสอบเอกสารและบัตรประจำตัว แต่ผู้ต้องหาที่ 1 – 73 ซึ่งไม่สามารถนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้

จากการตรวจสอบพบว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่สามารถพูดและรับฟังภาษาไทยได้เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสานล่ามแปลภาษา ทำการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 – 73 ได้แจ้งกับเจ้าที่ชุดจับกุมว่าพวกตนไม่มีเอกสารหรือบัตรประจำตัวใดๆทั้งสิ้นและยังไม่เคยได้รับเอกสารประจำตัวใดๆ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเกรงว่าอาจจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ภายในรถคันดังกล่าวอีก จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถและบริเวณรอบข้างอย่างละเอียด ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วย แม็กกาซีน จำนวน 2 อัน (บรรจุกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวนแม็กละ 11 นัด) ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องเก็บของด้านข้างเบาะผู้ขับขี่ภายในรถยนต์กระบะคอก

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่าม ให้การว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอาวุธปืนที่ยึดได้
สำหรับจักรยานยนต์ 3 คัน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นรถที่ใช้สำหรับรับแรงงานต่างด้าวที่นั่งเรือมาส่งที่ฝั่งตามแนวชายฝั่งแม่น้ำบ้านขนุนคลี่ จากนั้นแรงงานต่างด้าวจะนั่งรถจักรยานยนต์ ทยอยทีละ 3-4 คน ไปลงที่บริเวณภายในสวนยางพาราบ้านขนุนคลี่ ซอย 4 หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อนั่งรถยนต์กระบะพาไปส่งในพื้นที่ชั้นในต่ออีกที

สำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอาวุธที่ชุดจับกุมยึดมาได้ จะทำการตรวจสอบหาตัวผู้ครอบครอง เพื่อสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในครั้งนี้หรือไม่ และคาดว่าเป็นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยมีการเตรียมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในลำเลียงแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าคนไทยในการติดต่อกับนายหน้าเมียนมาเพื่อลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

จาการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 – 73 โดยล่ามแปลภาษา ให้การยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา มาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี และได้นั่งเรือมากจาก อ.สังขละบุรี จนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อรอขึ้นรถที่จะเดินทางเข้าไปทำงานในตัวเมืองชั้นใน โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าประมาณคนละ 15,000 ถึง 30,000 บาท จะจ่ายก็ต่อเมื่อเดินทางถึงที่หมายได้

เบื้องต้นทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวให้ว่า กระทำความผิดฐาน (ข้อหา) “เป็นบุคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นจึงได้คุมตัวชาวต่างด้าวทั้งหมดส่งให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันกลับประเทศเมียนมาต่อไป.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน