เชียงใหม่ – PM2.5 ยังวิกฤติ สั่งยกระดับภาวะฉุกเฉิน สู่ระดับ 2 ประกาศเขตภัยพิบัติเพิ่มเป็น 8 อำเภอ ประกาศปิดป่าอนุรักษ์ทั้ง 21 แห่งแล้ว พร้อมขอความร่วมมือ Work From Home
วันนี้ (9 เม.ย. 67) ที่ ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมหารือร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ได้มีมติให้ยกระดับการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์ภาวะวิกฤต โดยให้หน่วยงานต่างๆ บูรณาการในการทำงานร่วมกันผ่านมาตรการที่กำหนด
ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนหน้านี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากการเผา รวมถึงออกประกาศข้อแนะนำแนวทางมาตรการป้องกันและลดผลกระทบกรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว
ข่าวน่าสนใจ:
- สุดสวยงาม ดอกบัวตองบานสะพรั่งที่ดอยแม่อูคอ แม่ฮ่องสอนหนาวแล้ว พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
- สงขลา เดชอิศม์ "ลุย"สงขลา ชูเมืองสุขภาพดี อำเภอ น้ำประปาสะอาด ทม.สะเดาติด 1 ใน 4
- ป.ป.ส. จัดมหกรรมวันกองทุนแม่ของแผ่นดิน ภายใต้แนวคิด “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
- ถนนคนเดิน Stone Street บ้านไร่แห่งใหม่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย / เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอัคคีภัย ไฟป่า) ไปแล้วรวม 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอฮอด อำเภอฝาง อำเภอเชียงดาว อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่แตง อำเภอแม่อาย และอำเภอเวียงแหง
ที่ประชุมฯ จึงได้ร่วมกันพิจารณาถึงการยกระดับการปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในช่วงสถานการณ์วิกฤต ระดับที่ 2 เมื่อมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าตั้งแต่ 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ติดต่อกัน 5 วัน ตามแนวทางของคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ อยู่ 6 จุด คือ ที่อำเภอเชียงดาว 1 จุด , อำเภอเมืองเชียงใหม่ 3 จุด , อำเภอฮอด 1 จุด และอำเภอแม่แจ่ม 1 จุด โดยพบว่า ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว เป็นจุดที่ตรวจพบค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าตั้งแต่ 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ติดต่อกันนานถึง 9 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 1-9 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางตามมาตรการฉุกเฉิน ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤต ระดับที่ 2 จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5) ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างรอพิจารณาหลักเกณฑ์ และแนวทางในการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ จากกรมบัญชีกลาง หากมีการออกหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแล้ว จึงจะสามารถอนุมัติงบประมาณลงไปช่วยเหลือยังพื้นที่ต่าง ๆได้
ส่วนด้านการจัดการไฟในป่า ล่าสุด ได้มีการออกประกาศปิดป่าอนุรักษ์ทั้งหมด 21 แห่งแล้ว ส่วนป่าสงวนแห่งชาติ 25 แห่ง อยู่ในช่วงประกาศควบคุมการเข้าพื้นที่ป่า และคาดว่าจะยกระดับให้ปิดป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมดในเร็วๆ นี้ ขณะที่ด้านการจัดการไฟในพื้นที่เกษตร ได้ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์บรรจุเป็นเงื่อนไขในการดำเนินภารกิจต่างๆ หากตรวจพบว่าเกษตรกรรายใดฝ่าฝืนการเผาในพื้นที่เกษตร จะถูกระงับความช่วยเหลือจากภาครัฐในทุกกรณี
สำหรับการควบคุมฝุ่นในเขตเมือง สั่งห้ามรถบรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่าควันดำเกินค่ามาตรฐาน เข้าสัญจรในเขตพื้นที่เมือง โดยเน้นย้ำให้สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษฯ เพิ่มความถี่ในการตรวจควันดำรถให้มากขึ้น เช่นเดียวกับในภาคอุตสาหกรรม ได้เน้นย้ำให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจโรงงานกลุ่มเสี่ยงที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน หากมีการตรวจพบและเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขแล้วยังไม่ดำเนินการ ให้ออกคำสั่งหยุดประกอบกิจการเป็นการชั่วคราวในทันที
นอกจากนี้ สิ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ คือ การดูแลสุขภาพของประชาชน โดยได้ขอความร่วมมือสถานศึกษาทุกแห่ง รวมถึงหน่วยงานและสถานประกอบการต่าง ๆ พิจารณาประกาศให้ Work From Home (เวิร์ก ฟรอม โฮม : ทำงานจากบ้าน) ตามความเหมาะสม และหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะบุคลากรที่เป็นกลุ่มเปราะบาง
พร้อมทั้งจัดทำห้องลดฝุ่น และให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขยกระดับในด้านการตรวจสุขภาพ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นจัดหน่วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมชาวบ้านตามครัวเรือน เพื่อตรวจสุขภาพ แจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น และจัดยารักษาโรคที่มีคุณภาพให้อย่างทั่วถึง
.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: