ชุมพร-ชาวบ้านต้องไม่เดือดร้อน ตร.ชพ.รวบโจรโควิด
จากกรณีคนร้ายฉายา “โจรโควิด” ได้ออกอาละวาดลักขโมยก๊อกน้ำสแตนเลสที่อ้างล้างหน้าและฟลัชวาล์วหรือชักโครกภายในห้องน้ำชาย-หญิง ตามปั้มน้ำมัน และตามสวนสาธารณะ ใน จ.ชุมพร มาอย่างต่อเนื่อง ได้อาศัยจังหวะช่วงเวลากลางดึก โดยไม่สนใจการประกาศเคอร์ฟิวในภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด ถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้จัดการปั้มน้ำมันจิงโจ้ สาขาบางหมาก ตำบลบางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร นำหลังฐานกล้องวงจนปิดจับภาพขณะคนร้ายหรือ “โจรโควิด” ขณะขับรถจักรยานยนต์เข้าไปลักก๊อกน้ำสแตนเลสและฟลัชวาล์วจำนวน 13 ตัว ในอ่างล้างหน้าและห้องน้ำชายหญิงถึง 2 ครั้ง ในช่วงสัปดาห์เดียวกัน โดยเฉพาะฟลัชวาล์วซึ่งเป็นชุดสแตนเลสมีราคาถึงตัวละ 6960 บาท รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 1 แสนบาทเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 18 พ.ค.63 พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชัย แสงวิเชียร รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ยุทธนา ทองปาน สว.สส. ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร จากกรณีดังกล่าวคือ นายสุริยน ทาระหาร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 หมู่ที่ 11 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมของกลางก๊อกน้ำสแตนเลส ฟลัชวาล์วสแตนเลส ฟักบัวสแตนเลส และอุปกรณ์สแตนเลสอื่นๆที่ใช้ภายในห้องน้ำ ซึ่งทั้งหมดได้ตรวจยึดมาจากบ้านเช่าที่ผู้ต้องหาเช่าอาศัยอยู่ในซอยโพธารส 1 เขตเทศบาลเมืองชุมพร และที่นำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในซอยเดียวกัน รวมกว่า 200 ชิ้น นอกจากนั้นที่บ้านเช่าของผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตรวจพบกระถางปลูกต้นกัญชา 1 ต้น สูง 1.5 เมตร น้ำหนักรวม 300 กรัม และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีขาว ทะเบียน 1กณ 9609 ชุมพร ที่ใช้กระทำความผิด จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนนายสุริยนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าบุคคลตามภาพวงจรปิดที่ผู้จัดการปั้มน้ำมันใช้เป็นหลักฐานแจ้งความนั้นเป็นตนเองขณะขับรถจักรยานยนต์เข้าไปลักก๊อกน้ำและฟลัชวาล์วภายในห้องน้ำปั้มดังกล่าวทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมีอีกหลายแห่งทั้งที่จำและจำไม่ได้เนื่องจากได้ออกตระเวนลักขโมยมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยก๊อกน้ำและฟรัชวาล์วที่ลักขโมยมาจะนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าราคากิโลกรัมละ 60 บาท จะขายได้เงินครั้งละ 300-350 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว และข้อหาผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ต้นกัญชา)ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานต่างเพื่อขยายผลเกี่ยวกับการกระทำความผิดในท้องที่อื่นๆต่อไป.
ด้าน นายพันพาร ทาระหาร อายุ 53 ปี พ่อของผู้ต้องหากล่าวว่าตนมีลูกชาย 3 คน สำหรับนายสุริยนเป็นลูกชายคนที่ 2 และตนไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ลูกชายถูกจับ เพราะที่ผ่านมาลูกชายคนนี้ไม่เคยทำงานแถมยังเสพยาบ้าอีกด้วย เงินที่พ่อแม่รับจ้างทำงานมาและเก็บไว้ที่บ้านก็จะถูกลูกชายคนนี้ลักอยู่เป็นประจำ จนตนไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูกชายคนนี้แล้ว ก่อนถูกจับมีข่าวออกทางโทรทัศน์ซึ่งผู้เป็นแม่นั่งดูอยู่และเห็นภาพผู้ต้องหาจากกล้องวงจรปิดทั้งการเดินการขับรถจักรยานยนต์ แม่ยังถามลูกชายที่นอนดูอยู่ด้วยกันว่าคนในภาพวงจรปิดใช่ลูกหรือเปล่า แต่ลูกชายกลับทำไม่สนใจเหมือนไม่ได้ยิน จนกระทั่งมาถูกจับจึงรู้ว่าเป็นลูกชายจริงๆ
ด้าน พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จ.ชุมพร ได้ร่วมกับนายตำรวจที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าหลังจากผู้เสียหายมาแจ้งความตนได้สั่งการให้ตำรวจในท้องที่เร่งสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะถือว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมประชาชนอย่างมากและตนได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนและให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดกับพวกโจรพวกมิจฉาชีพที่ซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการณ์วิกฤติการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ชาวบ้านทุกคนได้รับความเดือนร้อน
ขณะที่นางสาวอุไรวรรณ ศรีมงคล อายุ 30 ปี ผู้จัดการปั้มน้ำมัน ปตท.จิงโจ้ ซึ่งได้มาติดตามคดีและดูตัวผู้ต้องหากล่าวว่าขอขอบคุณตำรวจมากที่จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างรวดเร็ว จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใครได้อีก และข้อแนะนำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ตนเสนอผู้บริหารปั้มน้ำมันเพื่อให้ติดกล้องวงจรปิดคุณภาพสูงเพิ่มอีกหลายจุดทั้งภายในปั้มและถนนหน้าปั้ม ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือสังคมอีกรูปแบบหนึ่งหากคนร้ายจากคดีอื่นๆ ได้แวะหรือผ่านมาตามถนนหน้าปั้มและภายในปั้มแห่งนี้เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลหลักฐานในการจับกุมคนร้ายได้ง่ายขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: