ชุมพร-ทำได้ไง!!ยัดข้อหาเอี่ยวค้ายา เรียก1ล้าน สารวัตร ลงมือเอง(คลิปเสียง เจรจา)
วันที่ 5 ตค.61 ที่ห้องประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร ศูนย์ราชการ จ.ชุมพร นางชลดา คลังทรัพย์ 34 ปี บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร อาชีพ ค้าขาย เข้าพบสื่อมวลชน พร้อมทั้งหลักฐานต่างๆ กรณี สามีถูกยัดข้อหา ร่วมกันค้ายาเสพติด มีนายตำรวจระดับสารวัตร เรียกเงินเพื่อปิดคดี 1ล้าน ต่อรองเหลือ 7 แสนบาท จ่ายเงินแล้ว ดันมี จนท.อส.บุกเข้าจับกุม ตัวสามี และ นางชลดา นำตัวไปสอบ พบคลิป ตำรวจเรียกเงิน อ้างแบ่งชุด อส.ด้วย 2 แสน ป้องกัน จว.โทรถาม สารวัตร โร่ให้ นักการเมืองท้องถิ่นคนสนิท เอามาคืน ไม่กี่วันหมายจับสามีออก ตัดสินใจดับเครื่องชน
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
- เพชรบูรณ์ - "ครอบครัวศรีประโค" บริจาคกระจกตาพ่อที่เสียชีวิต หวังช่วยให้ผู้อื่นกลับมามองเห็น
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
เรื่องสุดเสื่อมในวงการข้าราชการโผล่อีกแล้ว เมื่อนางชลดา อุ้ม ลูกสาววัย4 เดือน เปิดเผยว่า “เมื่อเดือน พค.61 ได้มีการจับกุม ผู้ต้องหา คดีค้ายาไอซ์ 21 กิโลกรัมในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ต่อมา ผู้ต้องหาซัดทอดว่า นายอาทิตย์ แซ่ลิ่ง อายุ 35 ปี สามีของนางชลดา มีส่วนร่วมในการค้ายาไอซ์จำนวนดังกล่าวด้วย ในขณะนั้นนางชลดากำลังคลอดลูกสาวที่ รพ.ชุมพรเขตต์มีนายอาทิตย์มาบอกเรื่องดังกล่าว แต่ตนเองกำลังเหนื่อยกับการคลอดลูกจึงไม่ได้สนใจมาก
ต่อมาในวันที่ 10 พค.61 ได้มี ไลน์ ของ นายตำรวจระดับสารวัตรคนหนึ่ง เด้งขึ้นมาในไลนของนางชลดา สอบถามว่าอยากให้ช่วยเหลือสามีไหม ตนก็บอกว่าอยากให้ช่วยแล้วเงียบไป ต่อมาสามีมาบอกว่า สารวัตรคนดังกล่าวขอพบและขอคุยด้วย จึงไปพบที่ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ใน ต.บางลึกอ.เมือง จ.ชุมพร โดยมี นายลงกรด คันทรัพย์ อายุ 56 ปี พ่อของนางชลดา และอุ้มลูกสาววัยแบเบาะไปด้วย มีเพื่อนของสามีขับรถนำทางไปพบ สารวัตรคนดังกล่าว ที่มาในชุดครึ่งท่อน เสื้อขาวคอปกแดง เมื่อ พบกัน สารวัตรคนดังทำทีพูดจาด้วยความเป็นห่วง ตนเอง ลูกสาวและสามี พร้อมทั้งถามย้ำว่า “อยากช่วยสามีไหม” นางชลดาก็ตอบว่า “อยากซิ” สารวัตรคนดังกล่าว จึงบอกว่า 1 ล้านบาท นางชลดา ถึงกับตกใจและ บอกว่า จะไปเอามาจากไหน พ่อของนางชลดา จึงถามว่าถ้าต่อสู้คดีจะมีโอกาสชนะไหม สารวัตรบอกว่ามีโอกาสน้อย และต้องใช้เงินมากถึง 2-3 ล้าน และในขณะนี้ ศาลกำลังมีคำสั่งยึดทรัพย์ของ ครอบครัวนางชลดาอยู่แล้ว ทั้งวัว รถยนต์ต่างๆ ก็ จะถูกยึดหมด นางชลดาจึงหันไปปรึกษาพ่อ แล้วบอกกับสารวัตรว่าขอเวลาหาเงินก่อน สารวัตรให้เวลา 1 เดือนต่อมาผ่านไปเกือบ 1 เดือน เพื่อนของนายอาทิตย์มาบอกว่า สารวัตรลดให้เหลือ 7 แสน นางชลดาบอกไปว่ายังไม่มีเงิน
วันที่ 21 กค.61 พี่สาวของนายอาทิตย์มาบอกว่า มีหมายเรียกนายอาทิตย์เป็นผู้ต้องหา ข้อหาผิด พรบ.ยาเสพติด จึงไปปรึกษากับ นักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง วันแรก นักการเมืองคนดังกล่าวบอกจะหาทนายให้ แต่ วันรุ่งขึ้นโทรมาบอกว่า ให้หาเงินให้ สารวัตรดีกว่า ในวงเงิน7 แสนบาท หลังจากนั้นได้ ไปขอกู้เงิน ไฟแนนซ์ พร้อมทั้งขายสวนยาง20 ไร่ ได้เงินมา 4 แสน ในวันที่ 6 สค.61 นักการเมืองท้องถิ่นได้ให้ไปพบที่ ปั้ม ปตท.ท่าแซะ จึงไปพร้อม พ่อ แม่แฟน และหลานๆ เมื่อพบ ได้แอบบันทึกเสียงการสนทนาไว้ พร้อมทั้งมอบเงินให้ไป 4 แสนบาท และเห็น ว่า นักการเมืองท้องถิ่นได้โทรไปยัง สารวัตร พร้อมทั้งได้ให้พูดโทรศัพท์กับ นางชลดา ซึ่งจำเสียงได้ นางชลดาบอกว่าอีก3 แสนขอเวลาอีกสักระยะ
ต่อมาวันที่ 10 สค.61 นักการเมืองท้องถิ่น สอบถามถึงเงินที่ยังเหลืออีก3 แสน และได้นัดส่งเงินที่ ปั้ม ปตท.บางหมาก ใน อ.เมือง จ.ชุมพร หลังจากนั้นใน วันที่ 20 สค.61 มี จนท.ชุด อส.ไปที่บ้าน ของ นางชลดา ที่อยู่กับนายอาทิตย์ พร้อมทั้งค้นบ้านอย่างละเอียด แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงเชิญตัว สามีไป ยัง ที่ทำการ กองร้อย อส. เพื่อตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือ และพบ คลิป ที่ นางชลดาบันทึก เรื่องการต่อรองการจ่ายเงินกับสารวัตร และ ในคลิป ระบุว่า แบ่งให้กับ ชุด อส.ของ จ.ชุมพร 2 แสนบาท ทำให้ จสต.ฐิติวัชร์ บุญกิจ ป้องกัน จ.ชุมพร หัวหน้าชุด อส.ชุมพร โทรไปหา สารวัตรเพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ทำให้ นางชลดา รู้ตัวว่า ถูกยัดข้อหายาเสพติด จึง ขอพูดกับ สารวัตรและ ให้เอาเงินมาคืน ไม่งั้นจะไปร้องสื่อ โดยให้นำมาคืน ใน 1 ชม. ต่อมานักการเมืองท้องถิ่นคนเดิม ได้นำเงินมาคืนให้ ถึงปากซอยหน้าที่ทำการ กองร้อย อส.ชุมพร มี อส.อีก 2 นายออกไปเป็นเพื่อน และ นำเงินมาถ่ายรูป จำนวน 7 แสนบาท จนกระทั่ง วันที่ 3 ตค.61 ได้มีหมายจับนายอาทิตย์ข้อหา พัวพันการค้ายาเสพติด ทำให้ นางชลดา ตกใจ และ งง ว่า ทำไมจู่ๆ จึงมีหมายจับ ทั้งที่น่าจะเป็นหมายเรียกก่อน แสดงว่า ตนเอง ถูกหลอกลวง เรื่องคดี มาตั้งแต่ต้น ทำให้ต้องการความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตนเองด้วย นางชลดา กล่าวทั้งน้ำตา ว่า นี่หรือ การกระทำของจนท.รัฐที่ทำเพื่อ ปชช. เนื่องจากต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ไปกู้เงินมา เนื่องจากกลัวจะถูกดำเนินคดี ทั้งที่ สามีไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: