ชุมพร-สู้เพื่อแม่ หนุ่มหัวใจวาย “พักก่อนนะ แม่ดูแลตัวเองดีดีนะ”
วันที่19 ตค.61 ร.ต.อ. ขจร ฉายศรี หัวหน้าสายตรวจรถยนต์ สภ.เมือง อ.เมือง จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 159/2 หมู่ที่ 2 ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจ สายสืบ แพทย์ รพ.ชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ จำนวนหนึ่ง รุดที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ ใจกลางเมืองชุมพร เป็นห้องแถวชั้นเดียวบ้านเช่า เรียงรายติดกัน 5 ห้อง พบว่า ที่ห้องเลขที่ 159/2 ในห้องนอน มีร่างของนายเฉลิมชัย พังงา อายุ 39 ปี อาชีพ รับจ้างทั่วไป นอนอยู่บนฟูกที่นอน ร.ต.ท หญิง นันทิยา รักดี พงส.เวร พร้อมด้วย แพทย์ ชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลในร่างกายแต่อย่างใด แต่ที่ปากมีลิ้นจุกออกมาเล็กน้อยและมีบาดแผลจากการที่ถูกฟันกัด น้ำลายฟูมปากเล็กน้อย ลงความเห็นว่า น่าจะเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ในขณะที่นอนหลับ มีอาการดิ้นรนก่อนเสียชีวิตจนฟันกัดลิ้นเป็นบาดแผล
สอบถาม นายมานิตย์ ทัศภูมิ อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านที่ มาเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบจนต้องงัดหน้าต่างปีนเข้าไปจนพบศพนายเฉลิมชัยนอนเสียชีวิตจึงแจ้งตำรวจ ทางด้าน นางสุดา พังงา อายุ 70 ปี แม่ของนายเฉลิมชัย หรือ ตั้ม เล่าว่า “เมื่อคืนนี้ในช่วงดึก ตั้มกลับจากออกไปทำงานรับจ้าง เข้ามากอดแม่แล้ว พูดเป็นลางว่า ตั้มขอพักก่อนนะแม่ดา แม่ดูแลตัวเองดีดีนะ” แล้วก็ขอตัวเข้าไปนอน จนกระทั่งเย็นของวันนี้ นายตั้มก็ ยังไม่ตื่น ออกมาจากบ้านที่อยู่ห้องติดกัน จึงวานให้นายมานิตย์เพื่อนบ้านเข้าไปเรียก แต่พบว่า นายตั้ม หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเสียชีวิตไปแล้ว
นางสุดา ร่ำไห้ทั้งน้ำตา เล่าให้ ฟังว่า ตั้มเป็นลูกชายคนสุดท้อง มีพี่น้อง 4 คน เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ 1 คน ส่วนอีก2 คน แยกเรือนไปหมดแล้ว คงเหลือตั้มที่อยู่กับแม่ ด้วยความอยากเป็นส่วนตัวจึงขอแยกไปเช่าห้องข้างๆ อยู่อีก1 ห้อง แต่ก็ ออกไปทำงานรับจ้างเลี้ยงดูแลมาตลอดตั้งแต่ เหลือกันเพียง2 คน แม่ลูก ในขณะที่แม่ก็ ป่วยกระเสาะกระแสะมาหลายปี แต่ตั้มก็ ไม่เคยทิ้งแม่ คอยดูแลเอาใจใส่มาตลอด อีกทั้ง ตั้มไม่เคยมีอาการของการเจ็บไข้ได้ป่วย เอาแต่มุมานะทำงาน ตั้มจะพูดเสมอว่า “ขีวิตนี้สู้เพื่อแม่” และไม่ยอมมีเมีย จนในหลายครั้ง มีผู้เตือนให้ตั้มพักผ่อนบ้าง แต่ตั้มจะบอกว่า ต้องทำงานเก็บเงินให้ได้มาก เผื่อแม่ป่วยหนักจะได้มีเงินรักษา อีกทั้งพี่ๆก็มีภาระของครอบครัวอยู่แล้ว ตั้มจะดูแลแม่ให้ดีที่สุด คาดว่า เมื่อคืนนี้ตั้มคงเหนื่อยจากการทำงานมาก จึงพูดเป็นลาง ก่อนจะเข้าไปนอนแล้ว หัวใจล้มเหลวเฉียบจนเสียชีวิต” นางสุดา ยังพูดต่อไปว่า แล้วแต่นี้ไปนี้ แม่จะอยู่กับใครพร้อมทั้งร่ำไห้ อย่างน่าเวทนาของเพื่อนบ้านที่มาให้กำลังใจแก่ นางสุดา ส่วนสาเหตุการตายไม่มีญาติติดใจ จึงจะได้บำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
