ชุมพร-เดือด!!ตัดไฟชุ่ย สวนทุเรียนหวิดเจ๊ง
ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายธเรวัชร อบแพทย์ นายก อบต.หาดยาย พร้อมด้วยนายชาญกวี สั่งสอน ผญบ.หมู่ที่ 4 ในฐานะประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ ต.หาดยาย นายคธาธร ไสยสุวรรณ อายุ 39 ปี แกนนำชาวบ้าน นายเกรียงศักดิ์ ยอดรัตน์ อายุ 35 ปี นายช่างคุมสถานีสูบน้ำ ต.หาดยาย นายอภิสิทธิ์ แดงประดิษฐ์ รอง นายก อบต.หาดยาย นายสุชีพ ดำสุทธิ์ ส.อบจ.ชุมพร เขต อ.หลังสวน นายกฤษดา ทองประดิษฐ์ ผญบ.หมู่ที่ 2 นายวรพงษ์ รอดนาโพธิ์ หมู่ที่ 11 และ นายประภาส สุขขาว ส.อบต.หาดยาย นำชาวบ้านหลายสิบคนเดินทางมาชุมนุมที่ ที่ทำการ ผญบ.หมู่ที่ 4 พร้อมทั้งยื่นข้อเรียกร้องให้ หน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไข พร้อมทั้งเตรียมเคลื่อนไหวเข้าสู่ ตัวตลาด หลังสวน ถ้าหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่มาแก้ไขปัญหาให้ ชาวบ้าน
นายธเรวัชร อบแพทย์ นายก อบต.หาดยาย เปิดเผยว่า”อบต.หาดยายได้มีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าเพื่อให้บริการจ่ายน้ำให้กับเกษตรกร ชาวสวนผลไม้ทั้ง สวนมังคุด สวนทุเรียน ต่อมาหม้อแปลงไฟฟ้าของ อบต.หาดยายได้เสียหายไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องสูบน้ำในสถานีสูบน้ำได้ อบต.หาดยายได้ขอเช่าหม้อแปลงไฟฟ้า จาก กฟภ.หลังสวน ในราคา 63,000 บาท และ รายเดือน เดือนละ 3,000 บาท อบต.ได้ตั้งเรื่องทางธุรการตามระเบียบ เพื่อขอเช่าหม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าว ก่อนหน้านี้สี่ห้าวัน กฟภ.หลังสวน ได้มาติดตั้งหม้อแปลง และ จ่ายไฟฟ้าให้สถานีสูบน้ำ ทำให้ ชาวสวนผลไม้มีน้ำรดสวนผลไม้ของตนเอง แต่ กระทั่งในช่วงเที่ยงวันนี้ จู่ๆ กฟภ.หลังสวน ได้ส่ง จนท.เข้ามาตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้า โดยไม่ได้บอกกล่าว แก่ อบต.หาดยาย แม้แต่น้อย
นายชาญกวี สั่งสอน ประธานผู้ใช้น้ำ ต.หาดยาย กล่าวว่า “กลุ่มผู้ใช้น้ำที่ใช้น้ำจากสถานีสูบน้ำ มีอยู่ 135 ครัวเรือน ใน6 หมู่บ้าน จำนวนหลายร้อยคน มีสวนทุเรียน และ สวนมังคุด รวมแล้วหลายพันไร่ มีผู้เดือดร้อนจากการขาดน้ำนำไปรดสวนผลไม้อย่างมาก หลักๆ แล้วคือการนำน้ำไปรดภายในสวนเกษตร ที่ต้องดูแลมากในช่วงนี้ คือสวนทุเรียน และ สวนมังคุด ซึ่งทุเรียนมีปริมาณที่ส่งออกไปสู่ตลาดทั่วโลกและทั่วประเทศจำนวนมาก ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ในขณะที่สวนทุเรียนในเวลานี้ กำลังออกดอก ถ้าขาดน้ำ ดอกจะร่วงหมด ใน 1 วันต้องรดน้ำ2 รอบ ใช้เวลาราว 5 ชม.
ในส่วนหม้อแปลงไฟฟ้าเสียหาย ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มีค.ได้แจ้งไปยัง กฟภ.หลังสวน ได้มาติดหม้อแปลง ใช้งานได้เพียง 3 วัน จู่ๆ จนท.กฟภ.หลังสวนได้มาปลดฟิวส์ ในขณะที่ชาวสวนเกษตรกำลังรดน้ำในสวนทุเรียนก็ต้องหยุดชะงัก จนนายชาญกวีได้ตรวจพบว่า ถูกปลดฟิวส์ที่โรงสูบน้ำ สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า จนท.มาถึงก็ไม่พูดพล่าม ปลดฟิวส์ออกแล้วขึ้นรถกลับออกไป ทำให้เกิดความงุนงง ว่าเกิดอะไร ขึ้น สร้างความเสียหายแก่ชาวสวนทันที จึงได้มารวมตัวที่บ้านผู้ใหญ่บ้านในฐานะ ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ ได้แจ้งไปยัง อบต.หาดยาย และประสานไปยัง กฟภ.หลังสวน แต่ที่สำคัญคือการที่ จนท.มาปลดฟิวส์ โดยไม่บอกล่วงหน้า ถ้าเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ใช้งบประมาณ หลายล้านถ้าเกิดพังขึ้นมาก็ จะทำให้เกิดความเสียหายอีก รวมถึงทุเรียนในสวนมีมูลค่านับร้อยล้านบาท ถ้าทาง กฟภ.หลังสวนไม่แก้ไขให้ก็ต้องรวมตัวไปยัง นายอำเภอหลังสวน เพราะเคยบอกว่าถ้าเป็นปัญหาภัยแล้งให้รีบมาพบนายอำเภอ ซึ่งก็พร้อมเคลื่อนไหวทันที”
ในขณะที่ นายคธาธร ไสยสุวรรณ อายุ 39 ปี แกนนำชาวสวนทุเรียนกล่าวว่า “ในฐานะผู้ใช้น้ำ และประสพเหตุดังกล่าว รู้สึกว่า กฟภ.หลังสวนไม่น่าจะทำแบบนั้น ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชาวสวนทุเรียนในขณะที่อยู่ในภาวะภัยแล้ง ถ้าขาดน้ำจะเสียหายหนัก ในช่วงเช้ากำลังรดน้ำ จู่ๆ น้ำหยุดไหลนานถึง 3-4 ชม. ทำให้ใบทุเรียนเริ่มเหี่ยวทันที ถ้าขาดน้ำนานจะทำให้ดอกทุเรียนร่วงและสลัดดอกทิ้ง ฝากว่า กฟภ.หลังสวน ควรจะชี้แจงบอกล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมตัว ต้องเห็นใจชาวสวนเกษตรด้วย ปีหนึ่งมีเพียงครั้งเดียว”
ชาวบ้านได้นำไปดูหม้อแปลงที่เสียหายและ โรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ของ อบต.หาดยายที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหลังสวน พบว่า หลังจากเกิดการปลดฟิวส์ ทำให้น้ำในเครื่องสูบน้ำที่ค้างในเครื่องทะลักออกมาจนเกือบท่วมเครื่อง ซึ่งถ้า ท่วมเครื่องจะสร้างความเสียหายให้แก่เครื่องสูบน้ำอย่างมาก ชาวบ้านบอกว่า ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้เตรียมการป้องกัน อย่าในกรณีไฟฟ้าดับกะทันหันก็ จะมีช่างเครื่องดูแล ป้องกันไม่ให้น้ำทะลักท่วมเครื่องอยู่ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องสูบน้ำ แต่ จู่ๆ แอบมาปลดฟิวส์ กว่าช่างเครื่องจะทราบเรื่องก็ กือบทำให้เกิดความเสียหาย
ต่อมา กฟภ.หลังสวน ทราบเรื่องได้ให้ จนท.รีบเข้าไปต่อฟิวส์ ก่อนที่กลุ่มชาวบ้านหลายร้อยคนจะเดินทางมาปิดหน้าที่ทำการ กฟภ.หลังสวน ที่ตั้งอยู่ในตลาดหลังสวน หวิดกลายเป็นเรื่องใหญ่
