ชุมพร-เดือดร้อนหนัก!! น้ำเน่า กลิ่นเหม็น ร้องแล้วเงียบ
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 22 สค.64 ที่ ศูนย์หมู่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม จ.ชุมพร ชาวบ้านพร้อมด้วยกลุ่มผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันพูดคุย เพิ่อหาวิธีการแก้ปัญหากลิ่นเหม็นจากฟาร์มเลี้ยงหมู ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านมานานนับ ปี และยังปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำห้วย จนน้ำเน่าเสีย ไหลลงสู่แหล่งเก็บน้ำของหมู่บ้าน ชาวบ้านประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างหนัก
กลุ่มชาวบ้านได้นำไปดู จุดที่สร้างปัญหาความเดือดร้อน ภายในสวนปาล์มของชาวบ้าน ข้างสวนปาล์ม เป็นฟาร์หมูขนาดใหญ่ มีรั้วรอบ ข้างรั้วมีน้ำไหลออก ลงสู่ลำห้วยภายในสวนปาล์ม น้ำในลำห้วยมีสีดำสนิท ส่งกลิ่นเหม็น ตลอดลำห้วยยาวหลาย กม.น้ำเน่าได้ไหลไปลงเขื่อนแหล่งน้ำของหมู่บ้าน อีกทั้งตลอดเวลาที่เดินสำรวจน้ำในลำห้วยแห่งนั้น พบว่ามีกลิ่นเหม็นของขี้หมู รุนแรง แสบจมูก แสบตาอย่างหนัก ชาวบ้านเล่าว่า ต้องทนอยู่ในมลภาวะทั้งกลิ่นเหม็น น้ำเสีย มานานร่วม 6 เดือน ภายหลังที่ได้มีการตั้งฟาร์มเลี้ยงหมูแห่งนี้ เคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ระดับอำเภอหรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ได้แต่ส่ง จนท.มาดูแล้วปัญหาจะหายไป 9-10 วันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม อีก ส่งผลให้ คนแก่ ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ หลายคน ชาวบ้านทั่วๆไปต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เนื่องจากออกนอกบ้านต้องป้องกันไวรัสโควิด 19 พอเข้าบ้านก็ ต้องสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นของขี้หมู หลายคนอยากจะขายบ้านย้ายไปอยู่ที่อื่นแต่ก็จนปัญญา เพราะฐานะไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะไปเริ่มต้นชีวิตที่อื่นได้
ข่าวน่าสนใจ:
นายสุนทร จันทร์ประสาท อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้รวบรวมรายชื่อเพื่อร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นของขี้หมู แต่พอผ่านได้ 9-10 วันก็เหมือนเดิม ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีทั้งกลิ่นเหม็นที่รุนแรง มีในลำห้วยน้ำเสีย เคยแจ้งไปยัง อบต.ทุ่งหลวง สาธารณสุขละแม ปศุสัตว์ละแม ได้เดินทางมาดู และว่ากล่าวตักเตือนแล้วกลับ แต่ก็ ไม่ดีขึ้น เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมู เป็นคนในพื้นที่ ก่อนหน้านี้เคยเลี้ยงไก่แล้วเปลี่ยนมาเป็นฟาร์มเลี้ยงหมู คาดว่าไม่น่าจะมีใบอนุญาตถูกต้องตาม กม.”
ทางด้านนายสมคิด ดาวเปียก นายก อบต.ทุ่งหลวง กล่าวว่า “ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยัง อบต.ทุ่งหลวง ก็ได้ประสานไปยังสาธารณสุขอำเภอละแม และ หน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนท.ได้เข้าไปดู ให้คำแนะนำ ครั้งที่สองก็มี จนท.ระดับจังหวัดมาให้คำแนะนำแต่ไม่มั่นใจว่า เจ้าของฟาร์มได้ปฏิบัติตามคำแนะนำหรือไม่ แต่ยังมีกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อน เป็นเวลานาน ถึง 6 เดือนที่ผ่านมา เท่าที่ตรวจสอบไม่พบการขออนุญาตจาก อบต.ทั้งที่ต้องขออนุญาตในการเลี้ยงสัตว์ด้วย จากนี้ไปต้องขอให้จนท.มาดำเนินการให้มีการแก้ไขอย่างจริงจัง เนื่องจากชาวบ้านยังเดือดร้อนอยู่
นายธนชัย ช่วยบำรุง อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 143 หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ผลกระทบในช่วงนี้ในช่วงเช้าจะมีกลิ่นรุนแรงมาก เมื่อมีลมพัดเข้ามาในหมู่บ้านจะนำกลิ่นเข้ามาอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านถึงกับต้องปิดประตูบ้านกินกาแฟกัน โดยปกติชาวบ้านจะออกมานั่งกินกาแฟ นอกบ้าน แต่เมื่อมาเจอกินเหม็นขนาดนี้ถึงกับกินกาแฟไม่ลง กลิ่นเหม็นจะอยู่ในช่วงเช้า จนถึงเวลาประมาณ 10 โมงเช้ากลิ่นจะรุนแรงมาก และในช่วงเย็นถึงค่ำที่มีลมพัดเข้าหมู่บ้านจะมีกลิ่นรุนแรงมากขึ้น รู้สึกสงสารคนแก่โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวนอกจากต้องระวัง โควิด จะ19 แล้วยังต้องมาเจอกับกลิ่นเหม็นจากฟาร์มเลี้ยงหมูอีก นอกจากนั้นยังมีน้ำเสีย มีแมลงวันจำนวนมากในช่วงฝนตก เป็นพาหะนำเชื้อโรคอย่างดี มีการแอบปล่อยน้ำเสียลงในลำห้วยนำไปสู่ลำห้วยสาธารณะ ไปยัง เขื่อนของหมู่บ้านที่มีโครงการเลี้ยงปลา เมื่อน้ำเสียทำให้ปลาตาย กระทั่งปลาซิวปลาสร้อยตายแทบทั้งหมด อยากให้เจ้าของฟาร์มช่วยแก้ไขเรื่องกลิ่นและ ของเสีย ด้วย ชาวบ้านเข้าใจในเรื่องการทำธุรกิจแต่ขอให้ช่วยเรื่องมลพิษด้วย”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: