ชุมพร-โกงสิ้นเงินคนพิการ ข้าราชการสาวไม่กลัวบาปกรรม
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 23 พ.ย.61 ที่ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร.ต.อ.สนิท นุ้ยพิน พงส.รับแจ้งจาก นายเจนณรงค์ พุ่มสุวรรณ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 88 บ้านหนองเทา หมู่ที่ 5 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่า ถูกข้าราชการฝ่ายการคลังสังกัด อบต.แห่งหนึ่ง ใน อ.ละแม จ.ชุมพร ฉ้อโกงเงินช่วยคนพิการไปจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - ว่าที่ผู้สมัครชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์หน้าใหม่ บุกหนักขยันลงพื้นที่
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
นายเจนณรงค์ กล่าวว่า “นายเจนณรงค์ประสบอุบัติเหตุทางถนน เมื่อปี พศ. 2559 เกิดความพิการแขนและขาลีบ ไม่สามารถเดินได้และไม่สามารถใช้แขนด้านซ้ายได้ ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ แพทย์ได้ทำเอกสารยืนยันความพิการเพื่อให้นายเจนณรงค์ได้ทำบัตรผู้พิการ จนได้รับเงินเบี้ยความพิการเดือนละ 600 บาท ในเขตพื้นที่ อบต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ต่อมานายเจนณรงค์ได้รับการช่วยเหลือจากนางสาว จ. (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนของญาติที่คุ้นเคยกัน และรับราชการเป็น จนท. อบต. แห่งหนึ่งใน อ.ละแม จ.ชุมพร อีกทั้งเป็น จนท.ด้านการเงิน การคลัง ของ อบต.แห่งนั้น จึงทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจ นางสาว จ. ทราบเรื่องความเป็นมา ในความพิการของนายเจนณรงค์มาโดยตลอด จึงอาสาในการทำเรื่องขอเงินชดเชยจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร จากกรณีที่นายเจนณรงค์ประสบอุบัติเหตุจนพิการ นางสาว จ. ยังอาสาเป็นผู้ช่วยนำนายเจนณรงค์เดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมพรฯ แต่ทุกครั้งนายเจนณรงค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้เสมอ ทำให้นายเจนณรงค์เห็นว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือจึงเกิดความไว้วางใจแม้จะได้รับการเตือนจากญาติๆว่าเป็น นางสาว จ. เป็นคนไม่ดีไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว
ในวันที่ 17 กันยายน 2561 นางสาว จ. บอกกับนายเจนณรงค์ว่ามีเงินจำนวน 159,000 บาท โอนเข้ามาในบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาหลังสวนของนายเจนณรงค์ และเงินจำนวนนั้นเป็นของนางสาว จ. ที่ไปกู้ยืมมาและผู้ให้กู้โอนมาให้ นายเจนณรงค์ถามว่าทำไมไม่โอนเข้าบัญชีของนางสาว จ. โดยตรง นางสาว จ. บอกว่าเพราะมีปัญหาหนี้สิน บัญชีจึงถูกอายัด นายเจนณรงค์ถามว่าทำไมจึงไม่ให้ผู้ให้กู้โอนเงินเข้าบัญชีลูกสาว นางสาว จ. บอกว่าไม่ต้องการให้ลูกรับรู้ ด้วยความที่ไว้วางใจจึงเชื่อคำพูดของนางสาว จ. และเดินทางไปเบิกเงิน 159,000 บาท ที่ธนาคารกรุงไทยสาขาหลังสวนในวันที่ 18 กันยายน 2561 และมอบเงินให้กับนางสาว จ.
ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม 61 นายเจนณรงค์ได้ติดต่อสอบถามไปที่เจ้าหน้าที่ อบต.ท่ามะพลา ถึงเรื่องเงินช่วยเหลือคนพิการอันเกิดจากอุบัติเหตุจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร ได้การว่าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพรได้โอนเงินเข้ามาให้กับนายเจนณรงค์ในบัญชีของนายเจนณรงค์แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.ย.61 จึงทำให้รู้ว่าโดนนางสาว จ.หลอกเอาเงินไปเสียแล้ว จึงให้เพื่อนติดต่อสอบถามไปยังนางสาว จ. พร้อมกับได้บันทึกเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งนางสาว จ. ก็ยอมรับว่า ได้หลอกให้นายเจนณรงค์เป็นผู้เบิกเงินให้กับนางสาว จ. จริง และยอมรับว่าเงินจำนวนนั้นเป็นของนายเจนณรงค์ไม่ใช่เงินของนางสาว จ. นายเจนณรงค์จึงขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่นางสาว จ. ก็ผัดผ่อนมาตลอด จนครั้งสุดท้ายนายเจนณรงค์บอกว่าถ้าไม่นำมาคืนภายในวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็จะแจ้งความดำเนินคดี ถึงเวลานางสาว จ. ก็ไม่เอาเงินมาคืน
นายเจนณรงค์ กล่าวด้วยความยากลำบากในการพูด เนื่องจากมีอาการทางสมองด้วย ว่า “ชีวิตของตนเอง พ่อแม่ เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีลูกและภรรยา อาศัยข้าว ของพี่สาวที่คอยเลี้ยงดู และให้เงินไว้ใช้ เดือนละ 1,000 ถึง 2,000 บาท เท่านั้น เมื่อทราบว่ามีเงินช่วยคนพิการ จำนวน 159,000 บาท ก็ตั้งใจว่าจะให้ไว้กับพี่สาว เพื่อจะได้ช่วยบรรเทาความยากจนในครอบครัว และจะได้ไว้เลี้ยงดูตนเองก่อนจะตายจากกัน อีกทั้งเงินจำนวนนี้ ถ้าตนเองใช้ จะสามารถใช้ได้นานถึง 10 ปี แต่ไม่นึกว่าจะมีข้าราชการระดับสูงของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.ชุมพร มาโกงคนพิการอย่างตน โชคดีที่ได้เพื่อนๆมาช่วยติดตามทวงถาม และนำมาแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดี และจะร้องเรียนไปยังท้องถิ่นจังหวัดชุมพร เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยข้าราชการด้วย นายเจนณรงค์กล่าวด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย ในโชคชะตาชีวิตของตนเอง ตำรวจได้รับแจ้งความในข้อหา ฉ้อโกง และจะได้มีหมายเรียก นางสาว จ. ถ้าไม่มา ก็จะออกหมายจับต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: