ชุมพร-โลกนี้ไม่เที่ยงธรรม สองยายหลาน กัดฟันสู้ชีวิต ในสวนมะพร้าวเพียง 1 ไร่ เก็บขายวันละไม่กี่สิบบาท อาศัยในบ้านหลังเท่ากะต็อบ กรรมซัดซ้ำ พายุพัด ต้นมะพร้าวล้มทับบ้านพัง จนอาศัยอยู่ไม่ได้ ข้าวของเสียหาย ขณะที่หลานสาวป่วยโรคทางสมอง อาละวาดทำลายข้าวของ โดยไม่รุ้ตัว อีก ไร้แม้แต่เงินซื้อกระเบื้องมาซ่อมบ้านพอได้หลบฝน วอน ผู้ใจบุญ ช่วยเหลือ ผ่าน สวป.หลังสวน ใจดีคอยดูแลตลอด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 พ.ย. 60 ที่ หมู่ที่ 5 ต.นาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร นางสุเบญญา พัฒนะยรรยง ปลัดอำเภอ นายสุชาติ บุญเสถียร นายก อบต.นาพญา นางสาวศิริพร ทองอาญา ผญบ.หมู่ที่ พร้อมด้วยคณะกิ่งกาชาดหลังสวน พ.ต.ต.กุศล หวังแก้ว สวป. กำลังตำรวจ สภ.หลังสวน เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 5 เพื่อเยี่ยม และให้ความช่วยเหลือ ผุ้ประสพภัยธรรมชาติ จาก พายุฝนถล่ม ชุมพร ในช่วงที่ผ่านมา บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ท่ามกลางสวนปาล์ม และ สวนมะพร้าว ในพื้นที่ 1 ไร่ เศษ ภาพที่ ทุกคนเห็นเบื้องหน้า ทำเอา ทุกคนออกอาการเงียบกริบ เมื่อเห็นสภาพบ้านอยู่ในสภาพจะพังมิพังแหล่ ผู้ที่ออกมาต้อนรับเป็นเพียง ยายแก่ๆกับสาววัยรุ่น นางใส ยอดอุดม อายุ 80 ปี ยายของ นส.อรวรรณ พรหมสุวรรณ อายุ 17 ปี ในสภาพหน้าตาเศร้าหมอง คราบน้ำตาเต็มหน้า เมื่อเห็นคณะของผู้ที่มาเยี่ยม คนทั้งสองถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้ง
นส.อรวรรณ เล่าให้ฟังว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา ในเวลาที่มีพายุฝนพัดขึ้นสู่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร นส.อรวรรณ กับ ยายใส กำลังนอนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังสนั่น จากหลังคาบ้าน รู้ตัวว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่ จึงรีบจูงมือยายใส วิ่งหนีออกมาจากบ้าน หันไปดู บ้านพบว่า ต้นมะพร้าวขนาดใหญ่ สูงกว่า 5 เมตร มีลูกมะพร้าวเต็มต้น ล้มลงทับหลังคาบ้านเต็มๆ โชคดีที่ไม่ตรงกับจุดที่ นส.อรวรรณ นอนกับยายใส จึงไม่ได้รับอันตราย จากการตรวจสอบพบว่า หลังคาบ้านแตกพังแทบทั้งหมด ตัวบ้านมีรอยร้าวหลายจุด ทรัพย์สินจำนวนหนึ่งภายในบ้านได้รับความเสียหาย หลังคาบ้านไม่สามารถป้องกันน้ำฝนที่ตกลงมาตลอดเวลาได้ ทำให้บ้านหลังดังกล่าวไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีก จนกว่าจะซ่อมแซมเสร็จ
นส.อรวรรณ เปิดเผยว่า “ตนเองป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง ในบางเวลาจะมีอาการอาละวาดทำลายสิ่งของ โดยไม่รู้สึกตัว ในขณะนี้กำลังรักษาตัว ที่ รพ.สราญรมย์ สุราษฏร์ธานี แต่ด้วยความขัดสนเงินทอง การรักษาจึงไม่ต่อเนื่อง อีกทั้งขาดการศึกษา หลังจากป่วยในขณะที่กำลังเรียนผู้ช่วยพยาบาล จึงทำให้ไม่สามารถหารายได้ช่วยครอบครัวได้ นอกจากเก็บมะพร้าวที่มีอยู่เพียง 1 ไร่ มีรายได้เพียงเดือนละ ไม่กี่ร้อยบาท เท่านั้น ส่วนยายใสด้วยความที่อายุมากทำให้ไม่สามารถทำงานอะไรได้อีก ในขณะที่ พ่อแม่ ของ นส.อรวรรณก็ ออกไปทำงานรับจ้าง ในตลาดหลังสวน ได้รายได้เพียง เดือนละไม่กี่พันบาท พ.ต.ต.กุศล หวังแก้ว สวป. สภ.หลังสวน เปิดเผยว่า”หลังจากรับทราบเหตุการณ์จาก สายตรวจตำบลนาพญา เกิดความสงสารได้ระดมกำลัง ของตำรวจ และ ชาวบ้านช่วยกันบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้ แต่ยังอยากให้สังคมได้ช่วยเหลือ นส.อรวรรณ เพื่อจะได้มีเงินไปรักษาอาการป่วยด้วย ท่านที่มีจิตเมตตา ติดได้โดยตรงที่ พ.ต.ต.กุศล หวังแก้ว สวป. สภ.หลังสวน โทร 077-541-111 “
ข่าวโดย นายสาธิต ศรีหฤทัย
