ชุมพร–ร้องกอไผ่ยักษ์ ล่มขวางกลางลำคลอง หวั่นตลิ่งพังน้ำทะลักท่วมบ้าน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 มิย.61 ที่ บ้านเลขที่ 87 หมู่ 9 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายธนวัฒน์ ไหมพรหม อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพทำสวน นำผุ้สื่อข่าวไป ดู กอไผ่ขนาดใหญ่มาก ล้มลงในคลองช่าง ที่ไหลผ่านด้านหลังบ้านของนายธนวัฒน์ กอไผ่ขนาดใหญ่ล้มลงไปในลักษณะขวางลำคลอง ที่มีความกว้าง ประมาณ 10 เมตร ทำให้น้ำในคลองไหลผ่านจุดกอไผ่ล้มได้ลำบาก
นายธนวัฒน์ เล่าวว่า “เมื่อช่วงปลายปี พศ.2559 ซึ่งเป็นฤดูฝน ได้มีฝนตกหนัก กอไผ่ที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามลำคลองช่าง ได้เกิดล้มลง ต้นไผ่ร่วม 50ต้น ที่มีความสูงมากกว่า 5 เมตร เป็นกแชอไผ่ขนาดใหฐญ่มหึมา ได้ล้มลง ส่วนปลายของต้นไผ่พากมายังที่ดินฝั่งบ้านของนายธนวัฒน์ ส่วนด้านโคนต้นไผ่ที่เป็น ดินปนกับรากต้นไผ่ กลายเป็นก้อนดินขนาดใหญ่มาก หลุดออกจากที่ดินฝั่งตรงข้ามลงมาขวางกลางลำคลอง ทำให้ ระดับน้ำในคลองที่มีความสูง ประมาณ 2เมตร ไม่สามารถไหลต่อไปได้ตามมปกติ ส่งผลให้น้ำเอ่อขึ้นมากัดเซาะฝั่งที่ดินของบ้านนายธนวัฒน์ ที่มีสภาพเป็นดินทราย บางส่วนเริ่มไหลลงไปในลำคลอง เมื่อเวลาผ่านไป น้ำที่มาอัดอั้นในจุดกอไผ่ล้ม ก็เริ่มเน่าเหม็น เศษไม้ ใบไม้ เริ่มมาอุดตันในจุดดังกล่าวจำนวนมาก
นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า “ได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวไปแจ้ง ต่อ อบต.บ้านควน ที่รับผิดชอบลำคลองสาธารณะ เพื่อให้มาแก้ไขนำกอไผ่ดังกล่าวออกไป เนื่องจาก จุดที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่สาธารณะ และตนเองไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะมาแก้ไขได้โดยพละการ อีกทั้งการตัดต้นไผ่ที่อยู่ในที่สาธารณะ ต้องมีการแจ้งต่อ จนท.ที่รับผิดชอบ แต่เวลาผ่าน ร่วม 1 ปี กลับไม่มีแก้ไข ในช่วงฤดูน้ำหลากใน ปี พศ.2560 ระดับได้เอ่อสูงเข้าไปยังที่ดินฝั่งบ้านนายธนวัฒน์ ทำให้ตลิ่งที่เป็นดินปนทรายไหลลงไปในลำคลองจำนวน หนึ่ง นายธนวัฒน์ เห็นว่า ถ้าขืนปล่อยไป จะทำให้ ทีดินริมคลองพังจนถึงบ้านของนายธนวัฒน์ ที่ห่างจากริมคลองเพียง 30 เมตรเท่านั้น
ในช่วงปลายปี พศ.2560 จึงไปร้องเรียน กับ นายก อบต.บ้านควน ในช่วงต้นปี พศ.2561 ไปร้องขอความช่วยเหลือ ต่อ ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอหลังสวน มี ปลัดอำเภอหลังสวนที่รับผิดชอบศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วยนายก อบต.บ้านควน เดินทางมาดูในสถานที่เกิดเหตุ ปลัดอำเภอหลังสวนได้สั่งการให้ นายก อบต.บ้านควน ช่วยเหลือแก้ไขเหตุดังกล่าว แต่ จนถึงปัจจุบัน ก็ ยังไม่มีการให้ความช่วยเหลือแก้ไขแต่อย่างใด ในขณะที่ฤดูน้ำหลากกำลังจะมาถึงอีกครั้งหนึ่งแล้ว เป็นเวลา ร่วม 2 ปี ที่ เกิดเหตุการณ์ขึ้น ในลำคลองสาธารณะ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของครอบครัวของตนเองและภรนยา ที่อาศัยอยู่เพียง 2 คนตายาย เนื่องจากลูกชายไปทำงานที่ จังหวัดอื่น อีกทั้งการแก้ไข ต้องอาศัย เจ้าหน้าที่ของทางราชการเพราะ เป็นประเด็นทางด้านกฎหมายที่ตนเองไม่สามารถทำได้เองตามลำพัง อีกทั้ง ไม่มีเงินมากถึงขั้นจ้างกำลังคน และเครื่องจักรกลเข้ามาดำเนินการแก้ไข จนต้องอาศัย สื่อมวลชน ช่วยกระจายข่าวให้ หน่วยราชการที่สูงกว่าอำเภอ เข้ามาช่วยแก้ไขด้วย”
ทางด้าน นายนิวัฒน์ โพธิ์พร้อม ปลัดอำเภอหลังสวน เปิดเผยว่า “ได้รับเรื่องไว้ในฐานะศูนย์ดำรงธรรม เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นเขตอำนาจหน่าที่ของ กรมเจ้าท่าที่ต้องดำเนินการ ซึ่งได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง เจ้าท่าชุมพรแล้ว ทราบแต่ว่า นายธนวัฒน์ ไปติดตามเรื่องที่เจ้าท่าชุมพรแล้ว เรื่องยังเงียบ อำเภอหลังสวนได้ติดตามเรื่องไปยังเจ้าท่า หลายครั้งก็ ได้รับคำตอบว่า กำลังดำเนินการ มาโดยตลอด”
