หน่วยงานราชการ และชาวบ้าน ช่วยกันตัดเก็บต้นตะเคียนขนาดใหญ่ อายุกว่า 300 ปี ที่หักโค่นหน้าวัดวัดโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเป็นวัดที่พระเจ้าเสือสร้าง และเป็นแห่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพิจิตร โดยระหว่างที่ตัด พบปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรดนาน กว่า 3 ชั่วโมง
จากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดลมพายุ พัดต้นตะเคียน ขนาดเส้นผ่านสูนกลาง 4 เมตร อายุ 305 ปี ที่อยู่ บริเวณหน้าวัดโพธิ์ประทับช้าง เลขที่ 309 หมู่ที่ 3 อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ อายุกว่า 320 ปี ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8) ช่วงประมาณ ปี พ.ศ.2242 โดยลมพายุ ได้พัดเอาต้นตะเคียน ที่แผ่กิ่งก้านที่มีขนาดใหญ่ หักโค่นลงมาบริเวณหน้าวัด
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่อำเภอโพธิ์ประทับช้าง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ชาวบ้าน เกือบ 100 คน เข้าทำการตัดเก็บ เศษต้นไม้ของต้นตะเคียน ที่หักโค่นลง โดยทำการเลื่อยตัดลำต้นที่มีขนาดเล็กออก ส่วนลำต้นขนาดใหญ่ทางชาวบ้านและทางวัดโพธิ์ประทับช้าง จะทำการเก็บรักษาต้นไว้ เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้ โดยระหว่างที่ชาวบ้าน ร่วมกันตัดเก็บไม้ที่หักโค่น ได้เกิดปรากฎการณ์ พระอาทิตย์ทรงกรด ขึ้นต่อเนื่อง เป็นเวลา กว่า 3 ชั่วโมง จึงเป็นที่ฮือฮา ของชาวบ้าน ที่มาร่วมกันตัดต้นไม้ และ มาดูต้นตะเคียนที่หักโค่น
นายหัฎฐะพล เมฆอาภา นายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งให้สำนักศิลปากร ได้ทราบข้อมูล เนื่องจากวัดโพธิ์ประทับช้างได้ขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถาน เมื่อปี 2507 โดยสาเหตุของการหักโค่น ในครั้งนี้ คาดว่าต้นตะเคียนที่มีอายุมาก ต้านแรงลมไม่ไหว เนื่องจากลำต้นมีการพุพัง จึงทำให้ถูกพายุพัดจนหักโค่น เบื้องต้นจะนำเจ้าหน้าที่พร้อมชาวบ้านช่วยกันตัดกิ่งก้านของต้นตะเคียนที่หักโค่นลงมา เพื่อนำลำต้นเก็บรักษา เพื่อให้ชาวบ้าน ได้กราบไหว้ เนื่องจากต้นตะเคียนดังกล่าว อยู่คู่กับวัดเก่า เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน
สำหรับวัดโพธิ์ประทับช้าง สร้างในสมัยของสมเด็จพระเจ้าเสือ (สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8) ช่วงประมาณ ปี พ.ศ.2242 โดยพระเจ้าเสือทรงโปรดให้สร้าง เป็นอนุสรณ์ระลึกสถานที่พระองค์ประสูติ ณ สถานที่แห่งนี้ จังหวัดพิจิตร
ปัจจุบันวัดโพธิ์ประทับช้าง ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของ กรมศิลปากรกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานไว้ทั้งสิ้น 69 ไร่ 1 งาน 16 ตาราวา และต้นตะเคียน ที่หักโค่น เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดพิจิตรอีกด้วย
