สุดงดงามล้ำค่า!! เผย 3 พระพุทธรูปสัมฤทธิ์โบราณ 700 ปี แห่งอาณาจักรสุโขทัย ที่ไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปกรุงรัตนโกสินทร์
นายสมชาย เดือนเพ็ญ ผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มจังหวัดมรดกโลกทางวัฒนธรรม จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า อาณาจักรสุโขทัยในอดีตนั้น มีพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะสำริด อายุกว่า 700 ปี ถูกเคลื่อนย้ายอัญเชิญไปประดิษฐานยังกรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งหมดจำนวน 1,248 องค์ โดยองค์ใหญ่ที่สุด คือ “พระศรีศากยมุนี” วัดมหาธาตุสุโขทัย ถูกอัญเชิญไปไว้ที่วัดสุทัศนเทพวรารามฯ กรุงเทพฯ จึงทำให้สุโขทัยในปัจจุบัน คงเหลือพระพุทธรูปสัมฤทธิ์โบราณองค์ใหญ่ๆเพียงแค่ 3 องค์เท่านั้น คือ หลวงพ่อโต วัดเชิงคีรี , พระพุทธเรืองฤทธิ์ วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร และพระประธานในอุโบสถวัดตลิ่งชัน
โดยหลวงพ่อโต วัดเชิงคีรี หมู่ที่ 3 ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ นับเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์โบราณองค์ใหญ่ที่สุดใน จ.สุโขทัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดโคกสิงคาราม บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เมื่อครั้งมีการเคลื่อนย้ายจะนำไปไว้ที่กรุงรัตนโกสินทร์ ปรากฏว่าพอมาถึงหน้าวัดเชิงคีรี ล้อเลื่อนอัญเชิญก็เกิดหักพัง ชาวบ้านจึงขอให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้นับแต่นั้นมา
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับพระพุทธเรืองฤทธิ์ วัดสว่างอารมณ์วรวิหาร ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว องค์ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองลงมาจากหลวงพ่อโต โดยพระยาสวรรคโลก หรือเจ้าคุณนก วิชิตนาค ได้อัญเชิญจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง (วัดพระปรางค์) ล่องแม่น้ำยมลงมาประดิษฐานเมื่อปี พ.ศ. 2404 และในปี 2455 สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กับสมเด็จพระมาตุจฉาเจ้า ได้เสด็จกราบมนัสการพระพุทธเรืองฤทธิ์ และทรงพระราชศรัทธา พระราชทานทรัพย์เพื่อปูพื้นกระเบื้องในพระอุโบสถ ซึ่งยังคงถูกรักษาไว้มาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนพระประธานในอุโบสถวัดตลิ่งชัน หมู่ 2 ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก องค์ใหญ่เป็นอันดับ 3 เดิมเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปูนปั้น จึงยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ แต่จากการตรวจสอบพบว่าพระประธานองค์นี้เคยปรากฏอยู่ในช่วงที่เป็นเมืองวิเศษไชยสัตย์ ซึ่งเป็นชื่อเมืองชื่อที่ 5 ของเมืองเชลียง ก่อนเปลี่ยนมาเป็นเมืองศรีสัชนาลัย เมืองเชียงชื่น เมืองสวรรคโลก และเมืองวิเศษไชยสัตย์ จึงสมควรถวายนามท่านว่า “พระศรีเมืองวิเศษไชยสัตย์” เพื่อเป็นเกียรติแก่วัดตลิ่งชัน
“พระสัมฤทธิ์โบราณทั้ง 3 องค์นี้ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย รัศมีเป็นเปลวเพลิง สังฆาฏิคล้ายเขี้ยวตะขาบ นิ้วมือสั้นยาวแบบนิ้วมนุษย์ หน้ากลม อมยิ้ม พุทธลักษณะงดงามอ่อนช้อย เป็นศิลปะสุโขทัยแท้ ในช่วงยุคทองของสยาม ซึ่งยังคงอยู่ในพื้นที่ ดังนั้นเมื่อมาถึงสุโขทัยจึงควรมากราบสักการะ เพื่อความเป็นมงคลแก่ตัวเอง” นายสมชาย กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: