18 ม.ค. 65 ที่ จ.สุโขทัย สถานการณ์เนื้อหมูและผักที่ปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง ยังคงส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนเดือดร้อนกันทั่ว ถึงขั้นต้องรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน อะไรไม่จำเป็นก็ไม่กินไม่ซื้อ ขณะที่ร้านค้าต่างๆ ก็พยายามประคับประคอง เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้เช่นกัน
นายจิรายุทธ ถึงมี อายุ 33 ปี เจ้าของร้านซาลาเปายักษ์ “BiGตี๋สั่งตาย” และขนมจีบฮองเฮา ลูกใหญ่เท่ากำปั้น เปิดเผยว่า ที่ร้านได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะต้องใช้หมูใช้ผักเป็นส่วนประกอบทำขนมจีบ-ซาลาเปา อย่างเช่น หมูบด เคยซื้อกิโลกรัมละ 90 ตอนนี้ขึ้นเป็น 140 บาท ส่วนผักแครอท เคยซื้อกิโลกรัมละ 25 ก็ขึ้นเป็น 40 บาท , หัวหอม กิโลละ 30 โดดเป็น 45 , แตงกวา จาก 10-15 ตอนนี้ขึ้นเป็นกิโลละ 25-30 บาท โดยราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่องมานาน 2-3 เดือนแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
ทำให้ยอดขายหน้าร้านลดลงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะข้าวของแพงขึ้น คนเคยกินเขาก็เซฟเงิน อะไรไม่จำเป็นเขาก็หยุดกินหยุดซื้อ ตอนนี้จึงได้แต่อดทนกัดฟันสู้ ขายราคาเดิม ไม่ลดปริมาณ และยังไม่ขอเพิ่มราคาขนมจีบ-ซาลาเปา เพื่อรักษาลูกค้าประจำ และมาตรฐานของร้านเอาไว้
นายจิรายุทธ บอกอีกว่า นอกจากเปิดร้านขายซาลาเปาแล้ว ยังมีอาชีพเสริมเป็นนักดนตรีด้วย และเพิ่งจะลงทุนซื้ออุปกรณ์ดนตรี พอมีงานเตรียมจะได้เล่น ก็ดันมาเจอสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนซ้ำเติมอีก ทำให้เพื่อนที่เป็นมือเบส ต้องไปช่วยพ่อแม่ขายต้นไม้แทน ส่วนอีกคนก็ต้องปล่อยให้รถยนต์โดนยึดไป นี่ยังไม่นับรวมวงดนตรีอื่นๆ พวกเขาเดือดร้อนกันมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: