จากกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าว “ยายขายเมี่ยงวัย 88 ปี วอนขอบัตรคนจน” และข่าว “วอนช่วย 2 หนูน้อยอาศัยนอนในโรงบ่มใบยาสูบมานาน 8 ปี” ซึ่งทั้ง 2 ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย
ล่าสุด นางสาวศิริพร โรจนสุกาญจน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย ได้นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน สอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมดังกล่าว คือ นางสาวนกเล็ก เชยสุข อายุ 88 ปี มีความพิการทางการได้ยิน อาศัยอยู่กับน้องสาวชื่อ นางสาวสุดใจ เชยสุข อายุ 78 ปี มีความพิการทางการเคลื่อนไหว ซึ่งได้จดทะเบียนคนพิการแล้ว โดยทั้งสองไม่เคยแต่งงาน
ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ด้วยกันตามลำพัง 2 คน ในบ้านไม้ชั้นเดียว ยกพื้นสูง มีใต้ถุนบ้าน หลังคามุงสังกะสี ภายในเป็นห้องโถงโล่ง อาศัยนอนบริเวณชานหน้าบ้าน และบ้านปลูกบนที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทั้งสองคนประกอบอาชีพทำเมี่ยงโบราณขาย มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ
และนางสาวนกเล็กมีความประสงค์ขอมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากปัจจุบันไม่มีที่ดินเป็นของตนเองแล้ว จึงต้องการได้สิทธิบัตรสวัสดิการรัฐ เพื่อจะนำมาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และยื่นเรื่องขอรับสิทธิ์ดังกล่าว ประกอบกับมีภาระหนี้สินที่กู้ยืมเงินนอกระบบมา เพื่อลงทุนประกอบอาชีพทำไร่ยาสูบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดหนี้สินตามที่ได้ตกลงกับเจ้าหนี้ไว้
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย จึงได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1 ชุด และจะพิจารณาช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก จำนวน 3,000 บาท นอกจากนี้จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือเรื่องการเจรจาการชำระหนี้ หรือจัดหาที่อยู่ใหม่
ส่วนกรณี 2 หนูน้อยอาศัยนอนในโรงบ่มใบยาสูบมานาน 8 ปี ทีม One Home พม.จังหวัดสุโขทัย ก็ได้ลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว โดยนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย มอบหมายให้นางสาวศิริพร โรจนสุกาญจน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยทีม One Home พม.จังหวัดสุโขทัย และ อบต.ปากแคว ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน สอบข้อเท็จจริง และเร่งให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้
โดยได้พบคุณตา อายุ 83 ปี ป่วยพิการเดินไม่ได้ กับคุณยาย อายุ 79 ปี ส่วนลูกสาว คือ นางสาวจินตนารี อายุ 49 ปี ลูกเขย คือ นายสมชาย เขียวมูล อายุ 41 ปี และหลานสาว อายุ 9 ขวบ หลานชาย อายุ 8 ขวบ พักอาศัยอยู่ภายในโรงรถเก่า สภาพเก่าทรุดโทรม ปลูกติดกับบ้านของบิดามารดา มีลักษณะยกพื้น หลังคามุงสังกะสี อยู่บนที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ในช่วงฤดูฝนจะเกิดน้ำท่วมขังใต้ถุนบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลาดต่ำ
นางสาวจินตนารีและครอบครัว ประกอบอาชีพรับจ้างทำไร่ยาสูบ และไร่ข้าวโพด มีรายได้วันละประมาณ 150 บาท รายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพ รวมถึงสภาพที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม ต่อการใช้ชีวิตและการเลี้ยงดูเด็ก รวมทั้งสามีของนางสาวจินตนารี มีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำทุกวัน ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับบิดาและมารดาของภรรยา รวมทั้งปัญหาในการประกอบอาชีพ
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และบ้านพักเด็กและครอบครัว จึงได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เป็นเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน จำนวน 3,000 บาท โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2 ชุด และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำนายสมชายเข้ารับการบำบัดภาวะติดสุราแบบสมัครใจ นอกจากนี้จะพิจารณาปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์รายบุคคลจากกองทุนคุ้มครองเด็กต่อไป
สร้างความซาบซึ้งดีใจแก่ทั้ง 2 ครอบครัวนี้อย่างมาก ที่หน่วยงานรัฐไม่ทอดทิ้ง หรือนิ่งนอนใจ แต่ทันทีที่ได้รับทราบปัญหา ก็ได้ลงพื้นที่เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ หากประสบปัญหาทางสังคม สามารถแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน 1300 พม.สุโขทัย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: