14 มี.ค. 65 จากกรณีนายเอกรัตน์ บุญช่วย อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 69/2 หมู่ 5 บ้านหนองเฒ่า ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ได้เดินเท้าเข้าป่าเทือกเขาหลวงพร้อมกับน้องชาย คือ นายมงคลรัตน์ บุญช่วย อายุ 29 ปี เพื่อหาเก็บผักหวานกับสมุนไพรสบู่เลือดเอาไปฝากให้พ่อตา แต่เกิดพลัดหลงป่านาน 3 คืน 4 วัน ระหว่างช่วงวันที่ 6-9 มีนาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุด นายเอกรัตน์กับน้องชายรวมทั้งญาติๆ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การเดินหลงป่าครั้งนี้ เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเรื่องลี้ลับ ที่เกิดจากการสะกดครอบงำของเจ้าพ่อเขาเขียว ซึ่งเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาในพื้นที่โซกอีดุแห่งเทือกเขาหลวง โดยนายเอกรัตน์ เล่าว่า หลังเดินขึ้นเขาได้ประมาณ 2 กิโลเมตร ขาก็เกิดเป็นตะคริว จึงนั่งพักและให้น้องชายไปหาของป่าคนเดียว ขณะเผลอหลับก็คล้ายตกอยู่ในภวังค์ มองเห็นน้าชายเดินมาเรียกบอกให้ไป พอลุกเดินตามไป จู่ๆ เขาก็หายตัว แล้วก็มีพี่ชายกับน้องชายเดินมารับแทน พร้อมกับเอาเชือกขึงมัดเป็นช่องทางเดิน ไม่ให้ออกจากเส้นเชือก ให้เดินตามไปตลอด พอตื่นขึ้นมาอีกที ก็พบตัวเองอยู่ในป่าทึบกลางหุบเขา ซึ่งห่างจากจุดที่นั่งพักครั้งแรกประมาณ 10 กิโลเมตร รู้สึกงงมาก ไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
นายเอกรัตน์ บอกอีกว่า ช่วงใช้ชีวิตในป่าต้องหักกิ่งไม้มาปูกับพื้นดิน แล้วนอนขดตัวให้อบอุ่น ไม่มีอะไรกิน ต้องอาศัยดื่มน้ำที่ขังตามซอกพื้นหินประทังชีวิตแทน และเจอเก้ง หมูป่า เดินป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ ตอนหลับก็ฝันเห็นมีบ้านกระต๊อบบนเขา 10 หลัง อยู่กันหลังละ 2 คน เป็นหญิง-ชายวัยกลางคน แต่ถามอะไรก็ไม่ตอบ ขอน้ำดื่มก็ไม่ให้
นายมงคลรัตน์ บุญช่วย น้องชายนายเอกรัตน์ บอกว่า ญาติพี่น้องพากันนอนค้างบนเขาเพื่อตามหา แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ทำให้ต้องบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆช่วยด้วย พอช่วงเย็นวันที่ 3 พี่ชายก็โทรติดต่อกลับมา แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง สัญญาณขาดๆ หายๆ จนมาเช้าวันที่ 4 กู้ภัยติดต่อกับพี่ชายได้ แล้วส่งคลิปเสียงมาว่า “มองเห็นตะวันขึ้น มีเขาขาด ไม่มีภูเขาบังพระอาทิตย์” ก็เลยแยกย้ายกันตามหา กระทั่งพบพี่ชายหลงป่าอยู่ในโซกอีดุ กลางหุบเขาลึกและชันมาก ไม่รู้ลงไปได้ยังไง ขนาดชาวบ้านชำนาญพื้นที่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปตรงจุดนั้น ซึ่งกว่าจะพาพี่ชายเดินขึ้นมาได้ก็ใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง
ด้านญาติๆของนายเอกรัตน์ บอกว่า หมู่บ้านแถบนี้มีเรื่องเล่ามาแต่โบราณแล้ว ว่าในป่าบนเทือกเขาหลวง จะมีผีป่าเจ้าเขาคอยเรียกคนที่รุกล้ำเข้าไป แล้วบังตาทำให้หายหาไม่เจอ แต่คนรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยเชื่อกัน จนเจอเหตุการณ์กับคนในครอบครัว ตอนนี้เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะการหลงป่าครั้งนี้มันผิดปกติวิสัย เช่น คนไม่รู้ป่าจะต้องนั่งรอคนชำนาญเส้นทาง แต่นี่กลับเดินไปเรื่อย และเมื่อหลงทางก็ต้องลนลานรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ แต่นี่ผ่านไป 3 วัน กว่าจะโทรติดต่อกลับมา ที่สำคัญนายเอกรัตน์คิดว่าตัวเองหลงป่าแค่คืนเดียว แต่ความจริงญาติพี่น้องตามหากันมา 3 คืน 4 วันแล้ว และจุดที่พบก็เป็นหุบเขาลึก มีแต่ป่าแต่หนามเต็มไปหมด คนปกติไม่เข้าไปแน่นอน จึงเชื่อว่าถูกสะกดเดินไปโดยไม่รู้ตัว “ก่อนนี้ก็เคยมีพระธุดงค์หลงป่า และมีหญิงชาวบ้านขึ้นไปหาเห็ดโคน ติดอยู่ในป่าเทือกเขาหลวง 3 วัน แกเห็นคนเข้าไปช่วย ก็ตะโกนบอกว่าฉันอยู่นี่ แต่กลับไม่มีใครมองเห็น เพราะถูกผีบังตาไว้ จนต้องสร้างศาลเพียงตานำมาตั้งให้ จึงพบหญิงหลงป่าคนนั้นนั่งพิงต้นไม้อยู่ใกล้ๆ” ชาวบ้าน ต.ลานหอย กล่าว
นางเทียมจันทร์ เกตุสุวรรณ์ อายุ 58 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าเรื่องชวนขนลุกให้ฟังว่า เคยได้ยินเสียงร้องโหยหวนของผีปลวก ผีโป่ง บนเทือกเขาหลวงในช่วงเย็นใกล้ค่ำ และตอนเป็นเด็กก็เคยเข้าป่าไปกับพ่อ แล้วเจอผีป่าแปลงกายเป็นแม่มาเรียกให้พ่อลงไปเอาของ แต่พ่อรู้ว่าเป็นผีเลยไม่ออกไป มันก็หายวับ ถ้าออกไปผีเอาตายแน่นอน ดังนั้นเรื่องลี้ลับในป่าบนเทือกเขาหลวงแห่งนี้ ชาวบ้านจึงเชื่อว่ามีจริง
อย่างไรก็ตาม หลังจากญาติพี่น้องได้เจอตัวนายเอกรัตน์ที่หลงป่า แต่ออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ได้พากันไปอาบน้ำมนต์ ทำพิธีเรียกขวัญ ถวายหมู 1 ตัว และเตรียมบวชแก้บน 15 วัน รวมทั้งไม่พลาดที่จะเสี่ยงโชค ด้วยการซื้อลอตเตอรี่ตามอายุ 37 ปี กับเลข 2527 พ.ศ.เกิดของนายเอกรัตน์ด้วยเช่นกัน
