นักประดาน้ำจากหน่วยซีล10 นาย พร้อมทีมนักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี 10 นาย และทีมนักประดาน้ำจากเกาะเต่า 16 นาย นำโดยอีวาน 1 ในทีมนักดำน้ำกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ 13 หมูป่าในถ้ำหลวง อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เริ่มภารกิจค้นหาผู้สูญหาย 3 ราย ภายในเรือเฟอร์รี่ที่ล่มเกาะสมุย
เมื่อเวลา 07.30น. วันที่ 5 ส.ค. พล.ร.ท.สำเริง จัทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 สั่งการให้ เรือหลวงราวี 785 ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ มาสนับสนุนภารกิจค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รี่ ราชา4ล่มบริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ได้นำนักประดาน้ำหน่วยซีล 10 นาย พร้อมทีมนักดำน้ำจากเกาะเต่า 16 คน นายอีวาน คาราดซิก (IVAN KARADZIC) ครูสอนดำน้ำชาวแคนนาดา ซึ่งเป็น 1 ในทีมนักดำน้ำกู้ภัยที่เข้าช่วยเหลือ 13 หมูป่า ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อค้นหาผู้สูญหาย 3 ราย ที่คาดว่าจะติดอยู่ภายในเรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าว
โดยเมื่อเวลา 07.00น. บริเวณท่าเทียบเรือบ้านหน้าทอน อ.เกาะสมุย นายสิทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยทีมนักประดาน้ำ ทัพสื่อมวลชลที่เฝ้าติดตามรายงานข่าว ลงเรือหลวงราวี 785 พร้อมด้วยเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำเกาะสมุย เรือตรวจการณ์ตรวจคนเข้าเมือง เจ็ตสกีกรมเจ้าท่า ที่สนับสนุมภารกิจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ
เวลา 09.00น. ทีมนักประดาน้ำชุดแรกจากหน่วยซีล 2 นาย และนักดำน้ำชาวต่างชาติ 2 นาย ที่มี นายอีวาน นักประดาน้ำชาวเดนมาร์ก นั่งเรือยางไปยังจุดวางทุนที่เรือเฟอร์รี่จม เพื่อดำสำรวจสภาพแวดล้อม และวางตำแหน่งภายในตัวเรือ เพื่อให้ชุดประดาน้ำชุดที่2 เข้าค้นหาผู้สูญหายภายในตัวเรือเฟอร์รี่
นายสิทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่างภารกิจการค้นหาผู้ที่สูญหายจำนวน 3 ราย ที่ประกอบด้วย นายทิวากรณ วัชรฤทธิ์ (กลาสี) นางนภัรดา จันหาญ (พนักงานขายของบนเรือ) และนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (คนขับรถพ่วง18 ล้อ) การดำน้ำค้นหาในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 สนับสนุนเรือ อุปกรณ์ และกำลังพลโดยเฉพาะหน่วยซีลเข้าร่วมภารกิจ นอกจากนี้ยังมีนักประดาน้ำชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากเกาะเต่า และจากชุดประดาน้ำกู้ภัยทางทะเลของมูลนิธิกุศลสงเคราะห์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าปฏิบัติการในภารกิจวันนี้
