เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 26 พ.ย. 63 พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธนี เปิดเผยว่า หลังจากที่มีคนร้ายเข้าไปลักเงินในตู้บริจาค 2 คดีติดต่อกัน คดีแรกเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นตู้บริจาคของสำนักสงฆ์เจดีย์เขาหัวจุก ม.2 ต.บ่อผุด เงินที่หายไปประมาณ 2,000 บาท และคดีที่สอง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ตู้บริจาคจองวัดแหลมสุวรรณาราม ม.4 ต.บ่อผุด เงินที่หายไปประมาณ 300 บาท หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว
จากคำให้การของนายนพรัตน์ แก้วสาทร ผู้เสียหาย ได้ให้เบาะแสของคนร้ายว่า เป็นชายไทย รูปร่างท้วม อายุประมาณ 30 ปี การแต่งกายสวมแมสสีดำ ใส่หมวกแก็ป เสื้อสีเขียวขี้ม้า กางเกงขาสามส่วน สะพายเป้ ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้วในพื้นที่ ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย ทราบชื่อคือนายพิชิต เขียวดี อายุ 32 ปี ชาวอ.เขาสมิง จ.ตราด พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์สีแดง ชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และตรวจค้นในกระเป๋าเป้สะพายหลังยังพบชุดเครื่องแบบลายพรางทหาร สร้อยคอทองปลอม 4 เส้น เอกสารสำคัญของบุคคลอื่นอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บ่อผุด
นายพิชิต เขียวดี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ไปหาเพื่อนที่จังหวัดนราธิวาส และนั่งรถมาหาแฟนสาวที่เกาะสมุย ก่อนจะขอยืมรถจักรยานยนต์แฟนสาวไปขี่เที่ยวรอบเกาะ จากนั้นได้เปิดแอพพลิเคชั่นกูเกิลแมพค้นหาวัดต่างๆ ที่อยู่บนเกาะสมุย และจะขี่รถจักรยานยนต์ไปตามทางที่ค้นหา เมื่อไปถึงวัดก็จะดูช่วงที่ไม่มีคนพลุกพล่านเดินเข้าไปดูตู้บริจาค ก่อนอาศัยจังหวะปลอดคนจะเข้าไปลักเอาตู้บริจาคออกมาและไปหาที่งัดเอาเงินจากภายในตู้ไปออกไป ส่วนเงินที่ได้ก็ส่งไปให้ลูกที่อยู่ต่างจังหวัดจำนวน 3,500 บาท ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะตกงานและครั้งนี้เพิ่งทำเป็นครั้งแรก สำหรับชุดเครื่องแบบลายพรางทหาร และสร้อยคอทองคำปลอม ก็เอาไว้ใส่จีบสาวเท่านั้น ไม่ได้ไปใส่แอบอ้างอย่างอื่น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แจ้งดำเนินคดีกับนายพิชิต เขียวดี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหา ในข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์สินในสถานที่บูชาสาธารณะโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร พร้อมนำตัวส่งให้ ร.ต.อ.ศิรชัช กามูณี รองสารวัตร (สอบสวน) ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
